นครศรีธรรมราช – “เทพไท” สับกระบวนการเรียกประชุมสภาเพื่อเร่งรัดแก้รัฐธรรมนูญเย้ยกลุ่ม “สมศักดิ์-ชัย” ฟัดกันนัว เชื่อท้ายสุดอยู่ที่นายใหญ่กดปุ่มสั่งใครนั่งแป้นประธาน
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (11 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภา เรื่องมีการติดตามแล้วเชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนงำทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นว่าจะมีการประชุมในวันที่ 11 พ.ค.เวลา 09.00 น.ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่รู้ตัวมีการเคลียร์คิวในพื้นที่ทั้งหมด
แต่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาประธานวิปรัฐบาล ได้นำเอาหนังสือเรียกประชุมมาเป็นวันพุธ 9 โมง บอก ส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้งให้ทราบว่า จะมีการเปลี่ยนแปลง ส.ส.จึงลงพื้นที่และประหลาดใจอยู่ทีเดียวเมื่อมี เอสเอ็มเอส จากสภาเปลี่ยนเป็นประชุมวันที่ 12 อีกรอบ ส.ส.ต่างเช็กข้อมูลสอบถามกัน เพราะไม่แน่ใจว่า เอสเอ็มเอสดังกล่าวนั้นสภาได้เรียกจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการบ่งชัด การประชุมสภานั้นตามขั้นตอนต้องแจ้งเป็นหนังสือให้กับสมาชิกไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่นี่ไม่ทราบอะไรเลยได้รับเพียงเอสเอ็มเอส
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ดูๆ แล้วน่าจะเป็นเกมการเมืองของ 2 กลุ่มในพรรคพลังประชาชนก็เป็นได้ ซึ่งมีข้อสังเกตที่ปรากฏอย่างน้อย 2 เรื่อง คือ 1.เป็นการชิงไหวชิงพริบระหว่างกลุ่มของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กับกลุ่มของ นายชัย ชิดชอบ ในพรรคพลังประชาชนเอง ทั้งๆ ที่มติพรรคออกมาแล้วคือการสนับสนุน นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา สื่อ สังคม แม้แต่ ส.ส.พลังประชาชนเองต่างตั้งคำถามว่าประธานสภาจะเป็นนายชัยหรือ
“แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่ามติพรรคพลังประชาชนไม่ใช่เครื่องชี้ขาด การเข้าสู่ตำแหน่งประธานสภาของ นายชัย ชิดชอบ จึงน่าจะอยู่ที่ผู้บงการหรือนายใหญ่ที่จะสนับสนุนใครให้เป็นประธานสภา ซึ่งถ้านายใหญ่ฟันธงประธานสภาคือนายชัยปัญหาทุกอย่างจบอีกเรื่อง ในประเด็นถัดมาคือเป็นไปได้หรือไม่ว่าการรีบเร่งเลือกประธานสภาเพื่อต้องการให้ทันกับกระบวนการการนำรายชื่อทูลเกล้าฯให้เสร็จสิ้นก่อนปิดสมัยประชุมสภา เพื่อให้ประธานสภาได้แสดงบทบาทผลักดันควบคุมการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว” นายเทพไท กล่าว
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (11 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภา เรื่องมีการติดตามแล้วเชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนงำทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นว่าจะมีการประชุมในวันที่ 11 พ.ค.เวลา 09.00 น.ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่รู้ตัวมีการเคลียร์คิวในพื้นที่ทั้งหมด
แต่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาประธานวิปรัฐบาล ได้นำเอาหนังสือเรียกประชุมมาเป็นวันพุธ 9 โมง บอก ส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้งให้ทราบว่า จะมีการเปลี่ยนแปลง ส.ส.จึงลงพื้นที่และประหลาดใจอยู่ทีเดียวเมื่อมี เอสเอ็มเอส จากสภาเปลี่ยนเป็นประชุมวันที่ 12 อีกรอบ ส.ส.ต่างเช็กข้อมูลสอบถามกัน เพราะไม่แน่ใจว่า เอสเอ็มเอสดังกล่าวนั้นสภาได้เรียกจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการบ่งชัด การประชุมสภานั้นตามขั้นตอนต้องแจ้งเป็นหนังสือให้กับสมาชิกไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่นี่ไม่ทราบอะไรเลยได้รับเพียงเอสเอ็มเอส
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ดูๆ แล้วน่าจะเป็นเกมการเมืองของ 2 กลุ่มในพรรคพลังประชาชนก็เป็นได้ ซึ่งมีข้อสังเกตที่ปรากฏอย่างน้อย 2 เรื่อง คือ 1.เป็นการชิงไหวชิงพริบระหว่างกลุ่มของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กับกลุ่มของ นายชัย ชิดชอบ ในพรรคพลังประชาชนเอง ทั้งๆ ที่มติพรรคออกมาแล้วคือการสนับสนุน นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา สื่อ สังคม แม้แต่ ส.ส.พลังประชาชนเองต่างตั้งคำถามว่าประธานสภาจะเป็นนายชัยหรือ
“แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่ามติพรรคพลังประชาชนไม่ใช่เครื่องชี้ขาด การเข้าสู่ตำแหน่งประธานสภาของ นายชัย ชิดชอบ จึงน่าจะอยู่ที่ผู้บงการหรือนายใหญ่ที่จะสนับสนุนใครให้เป็นประธานสภา ซึ่งถ้านายใหญ่ฟันธงประธานสภาคือนายชัยปัญหาทุกอย่างจบอีกเรื่อง ในประเด็นถัดมาคือเป็นไปได้หรือไม่ว่าการรีบเร่งเลือกประธานสภาเพื่อต้องการให้ทันกับกระบวนการการนำรายชื่อทูลเกล้าฯให้เสร็จสิ้นก่อนปิดสมัยประชุมสภา เพื่อให้ประธานสภาได้แสดงบทบาทผลักดันควบคุมการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว” นายเทพไท กล่าว
