นครปฐม - ตำรวจภูธรภาค 7 เปิดอบรมระบบตรวจสอบข้อมูล บุคคลตามหมายจับให้แก่บริษัท ห้างร้าน โรงงาน โดยนำระบบ “เอสเอ็มเอส” มาใช้ในการตรวจสอบติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยายนต์ที่แจ้งหาย ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหามิฉาชีพและอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นในชวงเศรษฐกิจตกต่ำ
วันนี้ (23 พ.ค.) เวลา 10.00 น.ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.7) เป็นประธานในการเปิดการอบรม ระบบการตรวจสอบบุคคลตามหายจับให้แก่บริษัทห้างร้านต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 7 ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2550 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสามารถติดตามมาเพื่อดำเนินคดีบุคคลตามหมายจับได้ 951 ราย และยึดรถที่ถูกโจรกรรมได้คืน 83 คัน นับว่าประสบความสำเร็จที่น่าพอใจ และเป็นหน่วยงานแรกในประเทศไทยที่เริ่มใช้ระบบซึ่งตอนนี้ได้นำมาเผยแพร่ให้กับภาคเอกชน ห้างร้าน บริษัท โรงงาน ซึ่งมีลูกจ้างหรือคนงานจำนวนมากได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเจ้าของกิจการ ห้างร้าน บริษัท โรงงานที่สามารถตรวจสอบลูกจ้างหรือคนงานของตนเองว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของทางราชการหรือไม่
เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน ตลอดจนสามารถตรวจสอบรถยนต์หรือจักรยายนต์ที่เข้าออกภายในบริษัท หรือโรงงานว่า เป็นรถที่ถูกโจรกรรมหรือไม่ ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้รับจากระบบดังกล่าวจะช่วยการรักษาความปลอดภัยให้กับบริษัท ห้างร้าน โรงงาน ได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยเหลือทางราชการและสังคม ในการแจ้งบุคคลตามหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และยึดรถที่ถูกโจรกรรมคืนให้กับเจ้าของต่อไป
โดยในการอบรมดังกล่าว พบว่าได้รับความสนใจจากบริษัทห้างร้านและเจ้าของโรงงานและกิจการต่างๆนับพันแห่ง ได้ให้ความสนใจในการเข้ารับอบรมและบริการดังกล่าว ในการตรวจสอบลูกจ้างที่จะรับเข้าทำงาน รวมถึงการตรวจสอบคู่ค้าในธุรกิจ รวมถึงการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าติดตามบุคคลต้องสงสัย โดยเป็นเครือข่ายสายข่าวในวงกว้างมากขึ้น