นครศรีธรรมราช - “เทพไท” ย้อน “สมัคร” เป็นนายกฯได้ เพราะอาศัยใบบุญหัวหน้าพรรคเศรษฐี เข้าใจพฤติกรรมต้องตอบแทนบุญคุณสุดลิ่ม
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (20 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ถึง 2 เรื่อง ผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร เรื่องแรก นายสมัคร ได้กล่าวถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นกระยาจก ทำงานแบบกระยาจก ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นเป็นเศรษฐี คิดเป็นเศรษฐี ประเด็นนี้อยากบอก นายสมัคร ให้ชัดเจนมากขึ้นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้คำนึงว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นเศรษฐี หรือกระยาจก หรือลูกชาวบ้านถ้ามีความสามารถความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ยอมรับของประชาชนสามารถเป็นได้ ประชาธิปัตย์มีหลักเกณฑ์ในการเลือกผู้นำที่ชัดเจนไม่เช่นนั้นอยู่ไม่ได้ถึง 62 ปี ประชาธิปัตย์ไม่ได้ตั้งเพื่อให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือให้ใครเป็นเจ้าของพรรค
"พรรคการเมืองบางพรรคไม่ใช่หรือที่หัวหน้าพรรคเป็นเศรษฐีชูประเด็นรวยแล้วไม่โกง สุดท้ายถูกรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 เพราะเหตุผลการโกงไม่ใช่หรือ และที่เป็นนายกฯได้ทุกวันนี้เพราะอาศัยใบบุญของหัวหน้าพรรคเศรษฐีที่ถูกรัฐประหารคนนี้จึงจำเป็นต้องทดแทนบุญคุณปกป้องสุดลิ่มทิ่มประตู” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่ได้พูดถึง นายสมัคร ในทำนองว่า เป็นคนที่มีคดีติดตัวแล้วมานั่งเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว นายสมัคร บอกว่า ในประชาธิปัตย์มีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ตรงนี้บอกได้เลยว่าสมาชิกพรรคที่มีคดีแบบนายสมัคร ในประชาธิปัตย์ไม่มีเลย ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกพรรคมีคดีติดตัวอยู่ 2 คน ได้เข้าแสดงสปิริตต่อพรรคไม่ลงรับเลือกตั้งเป็นเรื่องที่น่าชมเชยยกย่อง ผิดกับนายสมัครที่มีคดีติดตัวและศาลตัดสินไปแล้วว่ามีความผิดและมีโทษจำคุกทั้งยังมีข้อกล่าวหาจาก คตส.แล้วยังมาลอยหน้าลอยตาเรียกร้องความชอบธรรมอีก
การอ้างถึงน้องชายของอดีตหัวหน้าพรรคบางรายในทำนองไปฉ้อราษฎร์ และเรียกหาความรับผิดชอบ ประเด็นนี้คิดว่าเรื่องนี้เป็นบุคคลคนละคน ต่างคนเป็นผู้ใหญ่รับผิดชอบตัวเองได้ หากว่ามีการกระทำผิดเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมืองไม่มีการใช้อำนาจหน้าที่ไปปกป้อง ถ้าถามหาความรับผิดชอบขอถามต่อไปถึงนายสมัครว่ากรณีพี่ชายน้องชายของนายสมัครหลายคนไปทำผิดกฎหมาย นายสมัคร จะรับผิดชอบหรือไม่ เพราะแม้แต่นายสมัคร ทำความผิดเองยังไม่รู้สำนึกกลับไปเรียกหาจิตสำนึกต่อญาติพี่น้องได้อย่างไร
“กรณีน้องชายของอดีตหัวหน้าพรรคบางรายที่นายสมัคร กล่าวอ้างนั้นมีข้อเท็จจริงง่ายๆจะผิดหรือถูกยังชี้ชัดไม่ได้เพราะไม่ได้ชี้ในศาล แต่นายสมัครนั้นผ่านการพิจารณาในศาลแล้วและโทษคือการสั่งจำคุกไม่ใช่หรือ” นายเทพไท กล่าวในที่สุด
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (20 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ถึง 2 เรื่อง ผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร เรื่องแรก นายสมัคร ได้กล่าวถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นกระยาจก ทำงานแบบกระยาจก ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นเป็นเศรษฐี คิดเป็นเศรษฐี ประเด็นนี้อยากบอก นายสมัคร ให้ชัดเจนมากขึ้นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้คำนึงว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นเศรษฐี หรือกระยาจก หรือลูกชาวบ้านถ้ามีความสามารถความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ยอมรับของประชาชนสามารถเป็นได้ ประชาธิปัตย์มีหลักเกณฑ์ในการเลือกผู้นำที่ชัดเจนไม่เช่นนั้นอยู่ไม่ได้ถึง 62 ปี ประชาธิปัตย์ไม่ได้ตั้งเพื่อให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือให้ใครเป็นเจ้าของพรรค
"พรรคการเมืองบางพรรคไม่ใช่หรือที่หัวหน้าพรรคเป็นเศรษฐีชูประเด็นรวยแล้วไม่โกง สุดท้ายถูกรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 เพราะเหตุผลการโกงไม่ใช่หรือ และที่เป็นนายกฯได้ทุกวันนี้เพราะอาศัยใบบุญของหัวหน้าพรรคเศรษฐีที่ถูกรัฐประหารคนนี้จึงจำเป็นต้องทดแทนบุญคุณปกป้องสุดลิ่มทิ่มประตู” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่ได้พูดถึง นายสมัคร ในทำนองว่า เป็นคนที่มีคดีติดตัวแล้วมานั่งเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว นายสมัคร บอกว่า ในประชาธิปัตย์มีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ตรงนี้บอกได้เลยว่าสมาชิกพรรคที่มีคดีแบบนายสมัคร ในประชาธิปัตย์ไม่มีเลย ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกพรรคมีคดีติดตัวอยู่ 2 คน ได้เข้าแสดงสปิริตต่อพรรคไม่ลงรับเลือกตั้งเป็นเรื่องที่น่าชมเชยยกย่อง ผิดกับนายสมัครที่มีคดีติดตัวและศาลตัดสินไปแล้วว่ามีความผิดและมีโทษจำคุกทั้งยังมีข้อกล่าวหาจาก คตส.แล้วยังมาลอยหน้าลอยตาเรียกร้องความชอบธรรมอีก
การอ้างถึงน้องชายของอดีตหัวหน้าพรรคบางรายในทำนองไปฉ้อราษฎร์ และเรียกหาความรับผิดชอบ ประเด็นนี้คิดว่าเรื่องนี้เป็นบุคคลคนละคน ต่างคนเป็นผู้ใหญ่รับผิดชอบตัวเองได้ หากว่ามีการกระทำผิดเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมืองไม่มีการใช้อำนาจหน้าที่ไปปกป้อง ถ้าถามหาความรับผิดชอบขอถามต่อไปถึงนายสมัครว่ากรณีพี่ชายน้องชายของนายสมัครหลายคนไปทำผิดกฎหมาย นายสมัคร จะรับผิดชอบหรือไม่ เพราะแม้แต่นายสมัคร ทำความผิดเองยังไม่รู้สำนึกกลับไปเรียกหาจิตสำนึกต่อญาติพี่น้องได้อย่างไร
“กรณีน้องชายของอดีตหัวหน้าพรรคบางรายที่นายสมัคร กล่าวอ้างนั้นมีข้อเท็จจริงง่ายๆจะผิดหรือถูกยังชี้ชัดไม่ได้เพราะไม่ได้ชี้ในศาล แต่นายสมัครนั้นผ่านการพิจารณาในศาลแล้วและโทษคือการสั่งจำคุกไม่ใช่หรือ” นายเทพไท กล่าวในที่สุด