ตรัง – เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองตรังขยายผลจับกุมผู้ต้องหาค้ายาไอซ์ได้อีก 4 ราย หลังจับกุมสมาชิกในแก๊งก่อนหน้านี้ได้ 1 ราย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (8 พ.ค.) พ.ต.ต.ณฐาภพ พงศาปาน สารวัตรสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองตรัง นำกำลังขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งค้ายาไอซ์ ที่ถูกจับกุมตัวมาได้ก่อนหน้านี้ 1 ราย คือ นายสมศักดิ์ หรือ ลิง ขาวคง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/7 ถนนห้วยยอด ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง พร้อมกับของกลางเป็นยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสฝากดปิด จำนวน 2 ถุง น้ำหนักถุงละ 0.6 กรัม รวม 1.2 กรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในผ้าเช็ดหน้า ภายในกระเป๋ากางเกงด้านหลังซ้าย ขณะที่ นายสมศักดิ์ กำลังนำยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมานั้น
ทั้งนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขยายผล จับกุมเครือข่ายค้าแก๊งยาไอซ์ได้เพิ่ม อีกจำนวน 4 คน ที่บ้านเช่าเลขที่ 102/11 และ 101/11 ถนนรัษฎา ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ แซ่จัง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/3 ถนนโรงเรียน ในเขตเทศบาลนครตรัง นางสาวสุนันท์ หนูเอียด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 9 ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นางสาวบุญมา ฤทธิ์เดช อายุ 26 ปี และนางสาวปราณี ฤทธิ์เดช อายุ 24 ปี สองพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ที่ 10 ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง
พร้อมกับของกลาง จำนวน 8 รายการ ได้แก่ ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 1 ถุง น้ำหนักถุงละ 0.282 กรัม อุปกรณ์ในการเสพ จำนวน 1 ชุด แท่งพลาสติก จำนวน 3 แท่ง หลอดแก้ว จำนวน 2 หลอด เข็มฉีดยา จำนวน 1 เล่ม ไฟแช็ก จำนวน 1 อัน หลอดเครื่องดื่ม จำนวน 10 หลอด และถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก ซึ่งมีคราบยาไอซ์ จำนวน 8 ถุง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นถุงที่ใช้ในการนำยาไอซ์แบ่งจำหน่ายให้กับลูกค้า และบางส่วนได้นำไปมั่วสุมเพื่อเสพกันแล้ว ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการจับกุม
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ และอุปกรณ์ในการเสพทั้งหมด รวมทั้งถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก ซึ่งมีคราบยาไอซ์ติดอยู่ด้วยนั้น เป็นของพวกตนที่นำมาเพื่อเสพกันเอง แต่มิได้นำไปจำหน่ายให้กับผู้ใด ส่วนยาไอซ์ที่เหลืออีกถุงนั้นเป็นของเพื่อน ซึ่งเป็นนักเที่ยวสถานบันเทิงแห่งเดียวกันที่นำมาฝากไว้ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย