ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนในสงขลา เริ่มไหวตัว และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการขายใหม่เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ภายหลังจากที่สื่อน้ำมาตีแผ่ และเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการจับกุมมากขึ้น
ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันรายหนึ่งใน จ.สงขลา เปิดเผยว่า หลังจากที่สื่อมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกระบวนการการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายกันเกลื่อนในพื้นที่ จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะปั๊มหลอดแก้วที่นำน้ำมันดีเซลเถื่อนมาจำหน่ายกันบริเวณริมถนน รวมถึงภายในหมู่บ้านต่างๆ นั้น
ล่าสุดพบว่า หลังจากข่าวดังกล่าวแพร่กระจายออกไปทำให้ปั๊มหลอดแก้วบางแห่งเกิดความระมัดระวังตัวมากขึ้นในการลักลอบจำหน่ายให้แก่ลูกค้า โดยบางรายเริ่มปรับเปลี่ยนเวลาจำหน่ายให้ลูกค้าเพื่อป้องกันการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“เดิมกลุ่มนี้เขาเคยจำหน่ายตลอดทั้งวัน เช้าจนถึงช่วงกลางดึก แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนเวลามาจำหน่ายให้ลูกค้าในช่วงค่ำจนถึงกลางดึกแทน ซึ่งทางลูกค้าที่มาเติมน้ำมันจากปั๊มหลอดแก้วเหล่านี้ก็จะรู้เวลาของปั๊มแต่ละแห่งที่เขาได้มาอุดหนุนเป็นประจำ จึงไม่ทำให้ยอดลูกค้าที่มาใช้บริการลดน้อยลงแต่อย่างใด” แหล่งข่าวรายนี้กล่าวและว่า
นอกจากธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนประเภทปั๊มหลอดแก้วจะผุดขึ้นเกลื่อนทั่วทุกพื้นที่แล้ว ปรากฏว่ายังมีกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายย่อยอีกจำนวนมาก ที่ซื้อน้ำมันเถื่อนมาแบ่งถ่ายลงขวดแก้ว วางจำหน่ายเป็นน้ำมันขวดด้วย ซึ่งราคาขายก็จะถูกกว่าราคาจริงของน้ำมันที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 3-5 บาท
นางรัชนีวรรณ อร่ามรัชนี ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 กล่าวว่า หลังจากสื่อได้ช่วยกันนำเสนอข่าวนี้ออกไปทำให้กลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำมันเถื่อน เพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตก็ยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ปัญหาที่พบเจอในการตรวจสอบน้ำมันแต่ละครั้งว่าเป็นน้ำมันเถื่อนหรือไม่นั้น ค่อนข้างจะดูยาก เพราะต้องนำน้ำมันดังกล่าวส่งพิสูจน์ตรวจสอบดูค่าออกเทนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีมาตรฐานหรือไม่
ขณะเดียวกัน ห้วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่ที่สามารถจับกุมได้มักจะเป็นในลักษณะการกระทำผิดซึ่งหน้า เช่น พบเจอในขณะกำลังขนหรือถ่ายน้ำมัน หรือกรณีที่มีรถบรรทุกบรรทุกน้ำมันแล่นผ่านมา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหลักฐานเอกสารถึงที่มาที่ไปของน้ำมัน
ปรากฏว่า ไม่มีเอกสารใบอนุญาตหรือใบกำกับการขนย้ายที่ถูกต้องมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู ตรงส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ก็สามารถจับกุมได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจสอบแทบทุกวัน และสามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อยเล็กๆ ไม่มีรายใหญ่ๆ
ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันรายหนึ่งใน จ.สงขลา เปิดเผยว่า หลังจากที่สื่อมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกระบวนการการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายกันเกลื่อนในพื้นที่ จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะปั๊มหลอดแก้วที่นำน้ำมันดีเซลเถื่อนมาจำหน่ายกันบริเวณริมถนน รวมถึงภายในหมู่บ้านต่างๆ นั้น
ล่าสุดพบว่า หลังจากข่าวดังกล่าวแพร่กระจายออกไปทำให้ปั๊มหลอดแก้วบางแห่งเกิดความระมัดระวังตัวมากขึ้นในการลักลอบจำหน่ายให้แก่ลูกค้า โดยบางรายเริ่มปรับเปลี่ยนเวลาจำหน่ายให้ลูกค้าเพื่อป้องกันการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“เดิมกลุ่มนี้เขาเคยจำหน่ายตลอดทั้งวัน เช้าจนถึงช่วงกลางดึก แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนเวลามาจำหน่ายให้ลูกค้าในช่วงค่ำจนถึงกลางดึกแทน ซึ่งทางลูกค้าที่มาเติมน้ำมันจากปั๊มหลอดแก้วเหล่านี้ก็จะรู้เวลาของปั๊มแต่ละแห่งที่เขาได้มาอุดหนุนเป็นประจำ จึงไม่ทำให้ยอดลูกค้าที่มาใช้บริการลดน้อยลงแต่อย่างใด” แหล่งข่าวรายนี้กล่าวและว่า
นอกจากธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนประเภทปั๊มหลอดแก้วจะผุดขึ้นเกลื่อนทั่วทุกพื้นที่แล้ว ปรากฏว่ายังมีกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายย่อยอีกจำนวนมาก ที่ซื้อน้ำมันเถื่อนมาแบ่งถ่ายลงขวดแก้ว วางจำหน่ายเป็นน้ำมันขวดด้วย ซึ่งราคาขายก็จะถูกกว่าราคาจริงของน้ำมันที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 3-5 บาท
นางรัชนีวรรณ อร่ามรัชนี ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 กล่าวว่า หลังจากสื่อได้ช่วยกันนำเสนอข่าวนี้ออกไปทำให้กลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำมันเถื่อน เพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตก็ยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ปัญหาที่พบเจอในการตรวจสอบน้ำมันแต่ละครั้งว่าเป็นน้ำมันเถื่อนหรือไม่นั้น ค่อนข้างจะดูยาก เพราะต้องนำน้ำมันดังกล่าวส่งพิสูจน์ตรวจสอบดูค่าออกเทนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีมาตรฐานหรือไม่
ขณะเดียวกัน ห้วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่ที่สามารถจับกุมได้มักจะเป็นในลักษณะการกระทำผิดซึ่งหน้า เช่น พบเจอในขณะกำลังขนหรือถ่ายน้ำมัน หรือกรณีที่มีรถบรรทุกบรรทุกน้ำมันแล่นผ่านมา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหลักฐานเอกสารถึงที่มาที่ไปของน้ำมัน
ปรากฏว่า ไม่มีเอกสารใบอนุญาตหรือใบกำกับการขนย้ายที่ถูกต้องมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู ตรงส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ก็สามารถจับกุมได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจสอบแทบทุกวัน และสามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อยเล็กๆ ไม่มีรายใหญ่ๆ