ยะลา – กองทัพมดมาเลย์ขนน้ำมันขายให้ชาวบ้านฝั่งไทย ขณะที่ปั๊มน้ำมันขนาดเล็กมีประชาชนไปใช้บริการคึกคัก หลังปั๊มใหญ่กำหนดเติมอย่างต่ำ 50 บาท
วันนี้ (4 มิ.ย.) บรรยากาศทั่วไปใน อ.เบตง จ.ยะลา หลังภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดที่ขยับราคาจำหน่ายขึ้น - ลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ประชาชนผู้บริโภคทุกสาขาอาชีพต่างได้รับเดือดร้อน และพยายามหาทุกวีถีทางเพื่อลดค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ ซึ่งประชาชนที่มีรายได้น้อยแก้ไขปัญหาด้วยการเติมน้ำมันปั้มขนาดเล็ก (ปั๊มหลอด) และน้ำมันขวดที่ประชาชนสามารถเติมได้ครั้งละ 20 บาท ขณะที่ปั้มน้ำมันขนาดใหญ่ให้เติมครั้งละ 50 บาทเป็นอย่างต่ำ
ส่งผลให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์เดือดร้อนหันมาเติมปั้มขนาดเล็กมากขึ้น ส่วนรถยนต์คนไทยจะขับข้ามด่านพรมแดนอำเภอเบตง ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับเมืองเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัคของประเทศมาเลเซียเดินทางไปเติมน้ำมันตามปั๊มขนาดเล็ก (ปั๊มหลอด) ต่างๆ ในหมู่บ้านของประเทศมาเลเซียที่มีการลักลอบจำหน่ายให้รถคนไทย หลังปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ของประเทศมาเลเซียงดจำหน่ายน้ำมันให้รถต่างชาติขณะที่ทางการมาเลเซียได้ใช้มาตราการณ์เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงที่อาจจะมีไม่เพียงพอในระยะยาวสำหรับผู้บริโภคในประเทศ
โดยขณะนี้น้ำมันดีเซลในประเทศมาเลเซียจำหน่ายเพียงลิตรละ 16.15 บาท ส่วน อ.เบตง จำหน่ายถึงลิตรละ 41.10 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ของมาเลเซียราคาลิตรละ 18.25 บาท ส่วน อ.เบตง ลิตรละ 41.10 บาท และน้ำมันเบนซิน 95 ของมาเลเซีย ลิตรละ 19.25 บาท ส่วน อ.เบตง จำหน่ายถึงลิตรละ 41.80 บาท
จากราคาน้ำมันที่แตกต่างและเพื่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการขนส่งบางรายที่รับจ้างวิ่งรับส่งผู้โดยสารทั้งในเขตพื้นที่และวิ่งนอกเขตพื้นที่จังหวัด มักแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง ด้วยการลักลอบซื้อน้ำมันเถื่อนจากกลุ่มขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่มีการลักลอบนำเข้าตามช่องทางต่างๆ และที่ลักลอบนำข้ามทางด่านพรมแดน อ.เบตง ด้วยการดัดแปลงถังน้ำมันของรถยนต์ชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นของชาวไทยและชาวมาเลเซีย ซึ่งมีการลักลอบเข้ามาจำหน่ายในราคาลิตรละ 25 – 28 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการลักลอบนำเข้า การหลบหนีการตรวจจับกุมของเจ้าหน้าที่ไทยและมาเลเซีย
ด้านนายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรเบตง อ.เบตงจ.ยะลา กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับศุลกากร ประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมกันตรวจตราตามแนวชายแดน เฝ้าระวังขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน หลังจากทางการมาเลเซียได้ออกมาตรการห้ามคนไทยเข้าไปเติมน้ำมันในประเทศ พร้อมทั้งเข้มงวดรถยนต์ของไทยและประเทศมาเลเซียที่มีการดัดแปลงถังน้ำมัน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในการขนน้ำมันข้ามประเทศ
นอกจากนี้ ได้เตรียมหารือกับกรมสรรพสามิตเพื่อวางมาตรการปรามปรามและดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อจับกุมผู้ค้ารายใหม่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ได้นำน้ำมันจากประเทศมาเลเซียมาจำหน่ายแบบบรรจุขวดขายตามริมถนนและในหมู่บ้าน รวมถึงตรวจสอบผู้ให้บริการน้ำมันที่ไม่จดทะเบียนให้ไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนผู้กระทำความผิดลักลอบนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักร กรมศุลกากรจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคารวมค่าอากรหรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ