นราธิวาส - โฆษก ทบ. นำ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจหาวัตถุพยานหลักฐาน ในค่ายฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บนเทือกเขาตะเว จ.นราธิวาส พบของกลางและหลักฐานมากมาย พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหาได้ 24 คน
วันที่ 5 พ.ค. พ.อ.อัคร ทิพย์โรจน์ ผอ.กองปฏิบัติการข่าวสาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและ โฆษก ทบ. พร้อมด้วย พ.ญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พ.อ.จตุพร กลัมพสุต ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 เดินทางด้วย ฮ.ทหาร จากค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เข้าไปตรวจสอบและรวบรวมวัตถุพยานหลักฐาน ในค่ายลับสำหรับฝึกอาวุธให้แก่กองกำลังขนาดใหญ่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บนเทือกเขา ตะเว ตั้งอยู่บนที่สูงรอยต่อของป่าดงดิบ ในเขต อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง อ.จะแนะ และ อ.สุคีริน จ.นราธิวาส
ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน 45 เปิดยุทธการตะวันเบิกฟ้า " พิทักษ์ 06 " เป็นการสนธิกำลังระหว่างกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกกวาดล้างในพื้นที่เป้าหมาย และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 13 ราย ต่อมาได้สอบสวนขยายผล และได้ลาดตระเวนจนพบที่มั่นของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ เป็นโรงเรือน 5 หลัง มีถ้ำโดยรอบบริเวณ 3 แห่ง ในค่ายพบเป็นห้องบัญชาการ ห้องละหมาด สถานประกอบอาหาร หลุมสำหรับฝังสัมภาระจำเป็น
ภายในโรงเรือนพบและตรวจยึดได้ยุทธภัณฑ์ 38 รายการ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เวชภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์สิ่งของใช้สำหรับการดำรงชีพ อาหาร น้ำดื่ม เอกสารปลุกระดมภาษายาวี และยังพบมีเสื้อยืดที่มีรายชื่อนักการเมืองในพื้นที่ เสื้อแจกเก็ต ที่มีตราสัญลักษณ์ของหน่วยทหารของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคาดว่าจะเป็นครูฝึกการสังหารบุคคลที่มีความชำนาญจากประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับค่ายแห่งนี้สามารถรองรับกำลังคนได้ไม่น้อยกว่า 60 คน และรองรับการใช้งานได้นาน เพราะพบภาชนะบรรจุอาหารจำนวนมาก
หลังจากทำการตรวจหาวัตถุพยานแล้ว ทาง ฉก.ทหารพรานกรม 45 ได้ทำลายค่ายดังกล่าวทันที สรุปผลการเปิดยุทธการในครั้งนี้ จนท.สามารถจับกุมแกนนำได้ 24 คน เสียชีวิต 1 คน จนท.ยึดของกลางได้ประกอบด้วย วิทยุสื่อสาร เครื่องประกอบวัตถุระเบิดได้กว่า 300 รายการ
พ.อ.อัคร กล่าวว่า การปฏิบัติการตามภารกิจชนิดกัดไม่ปล่อยของกรมทหารพรานที่ 45 ในครั้งนี้ มาจากข้อมูลด้านการข่าวที่ได้รับจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้นำไปสู่การติดตามไล่ล่าจับกุมสมาชิกผู้ก่อความไม่สงบและแนวร่วมมาดำเนินคดีและนำไปขยายผลเพื่อจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป
ด้าน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ สามารถตรวจสอบหาดีเอ็นเอของผู้ต้องหา แม้จะได้รับการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยขึ้นไปบนจุดที่ตั้งค่ายบนเขาตะเวก็ตาม ซึ่งทางสถาบันฯ สามารถที่จะหาคำตอบให้ปรากฏได้อย่างชัดเจนแน่นอน จึงมั่นใจว่าการสืบหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีความแม่นยำสูง และยังถูกกำหนดให้ใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาโทษของผู้คิดร้ายต่อบ้านเมืองได้อีกด้วย
วันที่ 5 พ.ค. พ.อ.อัคร ทิพย์โรจน์ ผอ.กองปฏิบัติการข่าวสาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและ โฆษก ทบ. พร้อมด้วย พ.ญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พ.อ.จตุพร กลัมพสุต ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 เดินทางด้วย ฮ.ทหาร จากค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เข้าไปตรวจสอบและรวบรวมวัตถุพยานหลักฐาน ในค่ายลับสำหรับฝึกอาวุธให้แก่กองกำลังขนาดใหญ่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บนเทือกเขา ตะเว ตั้งอยู่บนที่สูงรอยต่อของป่าดงดิบ ในเขต อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง อ.จะแนะ และ อ.สุคีริน จ.นราธิวาส
ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน 45 เปิดยุทธการตะวันเบิกฟ้า " พิทักษ์ 06 " เป็นการสนธิกำลังระหว่างกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกกวาดล้างในพื้นที่เป้าหมาย และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 13 ราย ต่อมาได้สอบสวนขยายผล และได้ลาดตระเวนจนพบที่มั่นของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ เป็นโรงเรือน 5 หลัง มีถ้ำโดยรอบบริเวณ 3 แห่ง ในค่ายพบเป็นห้องบัญชาการ ห้องละหมาด สถานประกอบอาหาร หลุมสำหรับฝังสัมภาระจำเป็น
ภายในโรงเรือนพบและตรวจยึดได้ยุทธภัณฑ์ 38 รายการ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เวชภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์สิ่งของใช้สำหรับการดำรงชีพ อาหาร น้ำดื่ม เอกสารปลุกระดมภาษายาวี และยังพบมีเสื้อยืดที่มีรายชื่อนักการเมืองในพื้นที่ เสื้อแจกเก็ต ที่มีตราสัญลักษณ์ของหน่วยทหารของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคาดว่าจะเป็นครูฝึกการสังหารบุคคลที่มีความชำนาญจากประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับค่ายแห่งนี้สามารถรองรับกำลังคนได้ไม่น้อยกว่า 60 คน และรองรับการใช้งานได้นาน เพราะพบภาชนะบรรจุอาหารจำนวนมาก
หลังจากทำการตรวจหาวัตถุพยานแล้ว ทาง ฉก.ทหารพรานกรม 45 ได้ทำลายค่ายดังกล่าวทันที สรุปผลการเปิดยุทธการในครั้งนี้ จนท.สามารถจับกุมแกนนำได้ 24 คน เสียชีวิต 1 คน จนท.ยึดของกลางได้ประกอบด้วย วิทยุสื่อสาร เครื่องประกอบวัตถุระเบิดได้กว่า 300 รายการ
พ.อ.อัคร กล่าวว่า การปฏิบัติการตามภารกิจชนิดกัดไม่ปล่อยของกรมทหารพรานที่ 45 ในครั้งนี้ มาจากข้อมูลด้านการข่าวที่ได้รับจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้นำไปสู่การติดตามไล่ล่าจับกุมสมาชิกผู้ก่อความไม่สงบและแนวร่วมมาดำเนินคดีและนำไปขยายผลเพื่อจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป
ด้าน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ สามารถตรวจสอบหาดีเอ็นเอของผู้ต้องหา แม้จะได้รับการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยขึ้นไปบนจุดที่ตั้งค่ายบนเขาตะเวก็ตาม ซึ่งทางสถาบันฯ สามารถที่จะหาคำตอบให้ปรากฏได้อย่างชัดเจนแน่นอน จึงมั่นใจว่าการสืบหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีความแม่นยำสูง และยังถูกกำหนดให้ใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาโทษของผู้คิดร้ายต่อบ้านเมืองได้อีกด้วย