ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – คณะกรรมการบริหารสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงหนุน “นวพล บุญญามณี” ในการเลือกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 เมษายนนี้ โต้ 6 ส.ส.หนุน “วรวิทย์ ขาวทอง” เป็นเรื่องส่วนตัว เหน็บเคยเป็นคนของพรรคไทยรักไทยมาก่อน
การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เริ่มเข้มข้นมากขึ้น ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา 6 ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม นายวินัย เสนเนียม นายศิริโชค โสภา นายเจือ ราชสีห์ นายลาภศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ประกาศหนุนทีม “รักสงขลา” ของนายวรวิทย์ ขาวทอง หมายเลข 2 ไปแล้วโดยให้เหตุผลว่าเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกัน
ล่าสุด วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่โรงแรมเอเชี่ยน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คณะกรรมการบริหารสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จ.สงขลา พร้อมด้วยสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ใน จ.สงขลา กว่า 300 คน ได้รวมตัวออกแถลงการณ์สนับสนุนทีม “สงขลาพัฒนา” ของนายนวพล บุญญามณี หมายเลข 1 ในการเลือกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 เมษายนนี้
โดยให้เหตุผลว่าเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ตัวจริง และอยู่กับพรรคมาอย่างยาวนาน และรับไม่ได้ที่ นายวรวิทย์ ขาวทอง จากทีมรักสงขลา หมายเลข 2 นำภาพ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 6 คนมาขึ้นป้ายสนับสนุนเพื่อหาเสียงและสื่อให้เห็นว่าเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกัน ทั้งที่ ความจริงแล้วเป็นคนของพรรคไทยรักไทย โดยเคยลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สงขลา ในนามของพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2548 และแม้ว่าจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่ไม่ใช่คนประชาธิปัตย์ตัวจริง
นอกจากนี้ กรรมการบริหารสาขาพรรคประชาธิปัตย์สงขลา ยังได้เรียกร้องให้ ติดตามกรณี นายธีระ รัตนวงศา ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขต 6 ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วในพื้นที่ ต.เขาพระ เพื่อนำตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นกับประธานสาขาพรรค
นายธรรมนูญ สาลีมีน ประธานคณะกรรมการบริหารสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จ.สงขลา ยังได้ย้ำว่า การที่ ส.ส.สงขลา ทั้ง 6 คนสนับสนุนทีมรักสงขลาของ นายวรวิทย์ นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่น แต่หากเป็นการเมืองระดับชาติ ทั้ง 6 คนลงสมัคร ส.ส.พวกตนก็พร้อมที่จะสนับสนุนเหมือนเดิม ซึ่งเชื่อว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจในประเด็นนี้ดีและแยกออกระหว่างการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ