“วิปฝ่ายค้าน” เสนอญัตติตั้ง กมธ.ชุดใหญ่ศึกษา รธน.ดึงภาค ปชช.-องค์กรต่างๆร่วมวง อัดรัฐบาลไม่มีจุดยืน ล้วงลูกใช้สื่อของรัฐปลุกกระแสหนุนแก้ รธน.
วันนี้ (8 เม.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังการประชุม ว่า ความไม่ชัดเจนในการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน ว่าจะแก้ไขบางมาตราหรือทั้งฉบับนั้น เกิดความเสียหายใน 3 ด้าน คือ 1.กระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะจากการที่นักธุรกิจออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะที่นักลงทุนต่างชาติชะลอการเข้ามาลงทุนในประเทศ 2.กระทบต่อการแก้ไขปัญหาในประเทศ โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของโฆษกพรรคพลังประชาชน พูดจากระทบไปถึงโฆษกรัฐบาล และที่น่าห่วงที่คิด คือ 3.การที่รัฐบาลไปปลุกกระแสคนที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการใช้กลไกของรัฐ คือ ใช้ NBT ถ่ายทอดสดฝ่ายสนับสนุน ซึ่งถือว่าเป็นการพยายามปลุกกระแส ใช้มวลชนจัดตั้งจากฝ่ายรัฐบาลขึ้นมา
“ฝากไปถึงรัฐบาลว่าควรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราหรือทั้งฉบับ ซึ่งขณะนี้ทราบมาว่าพรรคพลังประชาชนรวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลอื่นได้เสนอญัตติเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเพื่อตั้งกรรมาธิการ ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดทำญัตติขึ้นมาเช่นเดียวกัน ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกับญัตติ ก็ร่วมเสนอญัตติศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการชุดใหญ่มาศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญโดยจะดึงภาคประชาชน ภาคองค์กรอื่นมาร่วมศึกษาด้วยคาดว่าเมื่อเสนอญัตติแล้ว น่าจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนก็น่าจะเสร็จสิ้นและ คิดว่าน่าจะเป็นเวทีที่ดีที่สุด และปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้จบลงโดยเร็ว” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมวิปได้มีการพูดถึงกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงของ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน ที่เข้ามาทำร้ายนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ โดยวิปได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อติดตามการทำงานของคณะกรรมการของสภา ที่มีรองประธานสภาคนที่ 2 เป็นประธาน โดยคณะกรรมการติดตามประกอบด้วย นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา เป็นหัวหน้าทีม นายธนา ธีรวินิจ ส.ส.กทม.นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้รองประธานสภาทั้ง 2 ท่าน หามาตรการป้องกันกรณีเช่นนี้ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะจะกระทบต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล อาจเกิดความขัดแย้งทางความคิดกันขึ้นอีกได้ อีกทั้งต้องหามาตรการตรวจอาวุธของผู้ติดตาม ติดตั้งวงจรปิดในที่ที่สมควรติดตั้ง
