“สมเกียรติ” แจ้งความดำเนินคดี “ส.ส.ถ่อย” ถึงที่สุด!

"อาจารย์สมเกียรติ" เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ"การุณ โหสกุล"แล้ว ย้ำไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่จู่ๆ ตรงเข้ามาตะคอกด่า และกระโดดถีบ ขณะที่ทนายความยัน ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของส.ส. เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎร และเกี่ยวข้องกับเรื่องวุฒิภาวะขององค์กรนิติบัญญัติแห่งชาติ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ สน.ดุสิต นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร รอง ผกก.สส.และ พ.ต.ต.ทัชวัฒน์ สายโยธา พนักงานสอบสวน (สบ 2) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในข้อหาทำร้ายร่างกายและดูหมิ่น เหตุเกิดในห้องรับประทานอาหาร อาคารรัฐสภา 1 ชั้น 2 ถนนอู่ทองใน แขวงและเขตดุสิต กทม.

นายสมเกียรติ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 13.00 น.หลังจากที่ตนได้อภิปรายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเวลาประมาณ 15.20 น.ได้เดินออกมาจากห้องประชุม เข้าไปยังห้องรับประทานอาหาร อาคารัฐสภา 1 ชั้น 2 เพื่อรับประทานอาหาร โดยขณะนั้นเห็นว่า มีเพื่อน ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอยู่ประมาณ 20 คน จากนั้นตนได้เดินตรงไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งมี นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน เขต 8 พรรคประชาธิปัตย์ และ ดร.พีรยศ ลาฮิมมูลา ส.ส.สัดส่วน เขต 8 พรรคประชาธิปตย์ และ นางรัชดาภรณ์ แก้วสมิท ส.ส.สัดส่วน เขต 3 พรรคประช่ธิปัตย์ นั่งอยู่ก่อน

นายสมเกียรติ ให้การต่อว่า เมื่อตรงไปถึงที่โต๊ะ นายนิพนธ์ ได้ลุกขึ้นมาขอจับมือ โดยบอกว่า อภิปรายดีมาก และขณะที่ นายนิพนธ์ พูดยังไม่ทันขาดคำ มี ส.ส.คนหนึ่ง ซึ่งตนไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าเป็นใคร เดินเข้ามาด้านข้าง ตะโกนเข้าใส่หน้าว่า “ไอ้เหี้ยสมเกียรติ มึงจะเอาอะไร” พร้อมกับกระโดดถีบเข้าที่ท้องน้อยด้านขวา ทำให้ตนเซไปตามแรงถีบ จากนั้น ส.ส.คนดังกล่าวพยายามที่จะเข้ามาชกซ้ำ แต่นายนิพนธ์เข้าไปมาดึงมือ ส.ส.คนดังกล่าวไว้ พร้อมกับผลักออกไป จนเกิดชุลมุนกันขึ้นเล็กน้อย

“ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่รู้จักมาก่อนว่า ส.ส.คนนั้นเป็นใคร จนกระทั่ง 15 นาทีต่อมา จึงออกมาถามข้างนอก จึงรู้ว่า เป็น นายการุณ” นายสมเกียรติ กล่าว

ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นทนายความในคดีนี้ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎร และเกี่ยวข้องกับเรื่องวุฒิภาวะขององค์กรนิติบัญญัติแห่งชาติ