ตรัง – ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมส่วนราชการ ประชาชน และญาติมิตรของเหยื่อน้ำป่าถล่มที่น้ำตกไพรสวรรค์ 38 ศพ ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ ทั้งพิธีทางศาสนาพุทธ และอิสลาม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 เม.ย.) ที่บริเวณลานจอดรถน้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และญาติของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ที่น้ำตกสายรุ้ง หมู่ที่ 4 ตำบลช่อง และน้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้คร่าชีวิตนักท่องเที่ยว ทั้งหญิง ชาย และเด็ก จำนวน 38 ศพ
ดังนั้น ในวันที่ 14 เมษายน 2551 จึงเป็นวันครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยนายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอย่านตาขาว ประสานงานร่วมกับ จังหวัดตรัง ประชาชนในพื้นที่ตำบลช่อง และตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว และญาติพี่น้อง ครอบครัวผู้เสียชีวิต ร่วมกันจัดงานวันรำลึก ครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน เกิดความสะเทือนใจแก่ญาติๆผู้สูญเสีย และประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก จึงได้มีการจัดงานขึ้นมาเพื่อเป็นการรำลึก และกระตุ้นเตือนให้ประชาชนอยู่ในความไม่ประมาท รวมทั้งเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 38 ศพ โดยมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ซึ่งพิธีกรรมทางศาสนาพุทธนั้นได้มีการสวดธรรมนิยามสูตร และถวายปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ส่วนพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามนั้น มีการสวดอัลซานและอ่าคัมภีร์อัลกุรอ่าน
จากนั้น นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เป็นประธานในการอ่านสารไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต พร้อมกับยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที แล้ววางช่อดอกไม้ ดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตที่ สถานที่อนุสรณ์รำลึก และปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน 500 ตัว โดยมีประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับบรรยากาศที่น้ำตกไพรสวรรค์นั้น พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวน้อยมาก คาดว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงมีความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ยังคงฝังใจ และยังหวาดกลัวต่อการท่องเที่ยวน้ำตก โดยทางหน่วยงานรับผิดชอบเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วนั้น ก็ได้มีการจัดวางมาตรการป้องกันภัย และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ กู้ชีพ กู้ภัย ในชีวิตและทรัพย์นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 เม.ย.) ที่บริเวณลานจอดรถน้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และญาติของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ที่น้ำตกสายรุ้ง หมู่ที่ 4 ตำบลช่อง และน้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้คร่าชีวิตนักท่องเที่ยว ทั้งหญิง ชาย และเด็ก จำนวน 38 ศพ
ดังนั้น ในวันที่ 14 เมษายน 2551 จึงเป็นวันครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยนายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอย่านตาขาว ประสานงานร่วมกับ จังหวัดตรัง ประชาชนในพื้นที่ตำบลช่อง และตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว และญาติพี่น้อง ครอบครัวผู้เสียชีวิต ร่วมกันจัดงานวันรำลึก ครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก ทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน เกิดความสะเทือนใจแก่ญาติๆผู้สูญเสีย และประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก จึงได้มีการจัดงานขึ้นมาเพื่อเป็นการรำลึก และกระตุ้นเตือนให้ประชาชนอยู่ในความไม่ประมาท รวมทั้งเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 38 ศพ โดยมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ซึ่งพิธีกรรมทางศาสนาพุทธนั้นได้มีการสวดธรรมนิยามสูตร และถวายปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ส่วนพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามนั้น มีการสวดอัลซานและอ่าคัมภีร์อัลกุรอ่าน
จากนั้น นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เป็นประธานในการอ่านสารไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต พร้อมกับยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที แล้ววางช่อดอกไม้ ดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตที่ สถานที่อนุสรณ์รำลึก และปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน 500 ตัว โดยมีประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับบรรยากาศที่น้ำตกไพรสวรรค์นั้น พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวน้อยมาก คาดว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงมีความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ยังคงฝังใจ และยังหวาดกลัวต่อการท่องเที่ยวน้ำตก โดยทางหน่วยงานรับผิดชอบเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วนั้น ก็ได้มีการจัดวางมาตรการป้องกันภัย และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ กู้ชีพ กู้ภัย ในชีวิตและทรัพย์นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี