ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมโรงพยาบาลจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ เพื่อรับมืออุบัติเหตุทางบกและทางน้ำ ช่วง 7 วันอันตรายฉลองเทศกาลสงกรานต์ โดยเตรียมทีมกู้ชีพ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ประจำ 6 เกาะ แหล่งท่องเที่ยวหลักพังงา นำส่งฝั่งอย่างปลอดภัย
วันนี้ (11 เม.ย.) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์โรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังเป็นประธานเปิด “อาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี” และตรวจเยี่ยมความพร้อมของสถานพยาบาลในการเตรียมรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จังหวัดพังงา กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมสถานพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดพังงาและได้รับรายงานจากทั่วประเทศ ขณะนี้ทุกแห่งได้เตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุ การเจ็บป่วยฉุกเฉินช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด เลือด เจ้าหน้าที่ให้พร้อมรับตลอด 24 ชั่วโมง
เฉพาะที่จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล มีเกาะสวยงาม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาพักผ่อนตลอดปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปกติประมาณ 2 เท่าตัว และอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลทุกแห่งรับมือ มีแพทย์ประจำตลอด 24 ชั่วโมง
โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิต่างๆ เตรียมพร้อมทีมกู้ชีพทั้งหมด 25 ทีม ครบทั้ง 8 อำเภอ เพื่อการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด
สำหรับเกาะสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนหลักๆ มี 6 เกาะ ได้แก่ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เกาะปันหยี เกาะหมากน้อย เกาะคอเขาและหมู่เกาะสุรินทร์ โดยจัดทีมกู้ชีพไว้ประจำที่เกาะ ประมาณแห่งละ 30 คน พร้อมเรือเร็วที่พร้อมจะนำส่งผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน มายังโรงพยาบาลบนฝั่งได้ ซึ่งทีมกู้ชีพทุกคนเป็นมืออาชีพที่ผ่านการอบรมความรู้ ฝึกทักษะการช่วยชีวิตผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บมาอย่างดี สามารถช่วยดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ จากทีมกู้ชีพของกระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 1669 หลังวางสายรับแจ้งทีมกู้ชีพสามารถออกปฏิบัติการไปถึงจุดเกิดเหตุภายใน 10-15 นาที
สำหรับทางบกตามถนนเส้นทางหลัก กระบี่-พังงา-ภูเก็ต และระนอง-พังงา-ภูเก็ต ได้จัดทีมกู้ชีพกระจายอยู่ตลอดเส้นทาง 10 ทีมใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณเขาหลัก ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นเส้นทางการเดินผ่านไปจังหวัดใกล้เคียง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จังหวัดพังงามีผู้บาดเจ็บ 26 ราย เสียชีวิต 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่น เป็นอุบัติเหตุจราจรจากการใช้รถใช้ถนน ร้อยละ 40 เมาสุรา
วันนี้ (11 เม.ย.) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์โรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังเป็นประธานเปิด “อาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี” และตรวจเยี่ยมความพร้อมของสถานพยาบาลในการเตรียมรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จังหวัดพังงา กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมสถานพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดพังงาและได้รับรายงานจากทั่วประเทศ ขณะนี้ทุกแห่งได้เตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุ การเจ็บป่วยฉุกเฉินช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด เลือด เจ้าหน้าที่ให้พร้อมรับตลอด 24 ชั่วโมง
เฉพาะที่จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล มีเกาะสวยงาม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาพักผ่อนตลอดปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปกติประมาณ 2 เท่าตัว และอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลทุกแห่งรับมือ มีแพทย์ประจำตลอด 24 ชั่วโมง
โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิต่างๆ เตรียมพร้อมทีมกู้ชีพทั้งหมด 25 ทีม ครบทั้ง 8 อำเภอ เพื่อการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด
สำหรับเกาะสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนหลักๆ มี 6 เกาะ ได้แก่ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เกาะปันหยี เกาะหมากน้อย เกาะคอเขาและหมู่เกาะสุรินทร์ โดยจัดทีมกู้ชีพไว้ประจำที่เกาะ ประมาณแห่งละ 30 คน พร้อมเรือเร็วที่พร้อมจะนำส่งผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน มายังโรงพยาบาลบนฝั่งได้ ซึ่งทีมกู้ชีพทุกคนเป็นมืออาชีพที่ผ่านการอบรมความรู้ ฝึกทักษะการช่วยชีวิตผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บมาอย่างดี สามารถช่วยดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ จากทีมกู้ชีพของกระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 1669 หลังวางสายรับแจ้งทีมกู้ชีพสามารถออกปฏิบัติการไปถึงจุดเกิดเหตุภายใน 10-15 นาที
สำหรับทางบกตามถนนเส้นทางหลัก กระบี่-พังงา-ภูเก็ต และระนอง-พังงา-ภูเก็ต ได้จัดทีมกู้ชีพกระจายอยู่ตลอดเส้นทาง 10 ทีมใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณเขาหลัก ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นเส้นทางการเดินผ่านไปจังหวัดใกล้เคียง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จังหวัดพังงามีผู้บาดเจ็บ 26 ราย เสียชีวิต 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่น เป็นอุบัติเหตุจราจรจากการใช้รถใช้ถนน ร้อยละ 40 เมาสุรา