สธ.คุมเข้มอาสาสมัครกู้ชีพ แย่งผู้ป่วย ไม่ผ่านการอบรม โทษถึงขั้นปลดออกจากระบบ หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนมือมือโทร.ก่อกวนแจ้งเหตุฉุกเฉิน มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
วานนี้ (9 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดการอบรมความรู้ทางกฎหมายในพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉินปี พ.ศ.2551 ให้แก่อาสาสมัครกู้ชีพ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 40 คน ว่า ภายหลังจากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.2551 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2551
โดยกฎหมายระบุให้บุคคลที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ แพทย์ พยาบาล เวชกิจฉุกเฉิน หน่วยอาสาสมัครกู้ชีพจากภาคเอกชน มูลนิธิต่างๆ รวมทั้งรถพยาบาล เครื่องมือแพทย์ จะต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งในส่วนของการปฏิบัติงาน จะมีระบบเครือข่ายประสานงานผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะการใช้วิทยุสื่อสาร ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตเช่นกัน และทำงานในพื้นที่ไม่ซับซ้อนกัน ดังนั้น ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติงานที่ตกเป็นข่าวบ่อยๆ เช่น การแย่งชิงผู้ป่วยระหว่างกลุ่มอาสาสมัครกู้ชีพ บางเหตุการณ์ทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิต จะไม่มีปรากฏขึ้นอีก ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะมีโทษ คือ ปลดออกจากระบบ หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท โดยได้มอบหมายให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ จัดประชุมชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติงานครบทุกภาคต่อไป
ด้านนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรมัย รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉินปี พ.ศ.2551 มาตรา 30 กำหนดให้มีคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน (กพฉ.) 1 ชุด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แต่งตั้งแล้ว 1 ชุด มีทั้งหมด 17 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนจากแพทยสภา สภาพยาบาล ผู้แทนสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขต่างๆในการกำกับ ดูแลให้ผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ และสถานพยาบาลปฏิบัติตาม คาดว่า จะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้
“ในกฎหมายฉบับนี้ ยังครอบคลุมไปถึงการโทรศัพท์ก่อกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน คือ หมายเลข 1669 ซึ่งมักพบมากในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ที่อาจล่าช้า หรือขาดโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพอย่างทันการ ก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาทด้วย”นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว