ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตสนองนโยบายรัฐบาล ดึงแกนนำเยาวชนกลุ่มเสี่ยงและเยาวชนนอกสถานศึกษาห้ามยุ่งเกี่ยวยาเสพติด
นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการดึงเยาวชนนอกสถานศึกษาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ซึ่งมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนทั้งในและนอกสถานศึกษาที่เสี่ยงต่อการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดค่อนข้างสูง กลุ่มที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แม้จะเลิกพฤติการณ์ไปแล้ว
แต่ถ้าไม่มีระบบเฝ้าระวัง ติดตาม ช่วยเหลือ ดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อกลับสู่สังคมแล้วไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หรือสังคมไม่ให้การยอมรับ ก็อาจกลับไปมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก รวมทั้งผู้เสี่ยงหรือเสี่ยงมากต่อยาเสพติดในพื้นที่
โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้กำหนดให้มีการฝึกอบรมเยาวชนตามโครงการป้องกันเยาวชนนอกสถานศึกษาขึ้นในวันนี้ (25 มี.ค) ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดประจำปี 2551 เพื่อดำเนินการตามแนวทางการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ปฏิบัติการรวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน รวมถึงเพื่อวางระบบให้มีข้อมูลปัญหายาเสพติดเยาวชนนอกสถานศึกษา ประเมินสถานการณ์ รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องและนำไปสู่การเสพยาเสพติด
อีกทั้งสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังดูแลปัญหายาเสพติดโดยมอบหมายให้เป็นสมาชิกแจ้งข่าวยาเสพติดให้กับศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด รวมทั้งเป็นการสร้างภูมิต้านทานยาเสพติดให้แก่เยาวชน หรือกลุ่มเยาวชนนอกสถานศึกษา และส่งเสริม สนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม พัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ด้วยการเสริมพื้นที่และปัจจัยบวก ควบคุม และขจัดพื้นที่เสี่ยง ปัจจัยลบ
ทั้งนี้ นายฉลอง กล่าวถึงผลที่คาดว่าจะได้รับหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม ว่า จะสามารถพัฒนาเยาวชน แกนนำ หรือนอกสถานศึกษา หรือกลุ่มเสี่ยงไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ อันเกิดจากการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
อีกทั้งทุกภาพส่วนได้ให้ความสำคัญต่อปัญหายาเสพติดในทุกกลุ่มเป้าหมายและเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาตามนโยบายเร่งด่วน โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อมิให้ยาเสพติดพลิกกลับจนกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการดึงเยาวชนนอกสถานศึกษาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ซึ่งมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนทั้งในและนอกสถานศึกษาที่เสี่ยงต่อการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดค่อนข้างสูง กลุ่มที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แม้จะเลิกพฤติการณ์ไปแล้ว
แต่ถ้าไม่มีระบบเฝ้าระวัง ติดตาม ช่วยเหลือ ดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อกลับสู่สังคมแล้วไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หรือสังคมไม่ให้การยอมรับ ก็อาจกลับไปมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก รวมทั้งผู้เสี่ยงหรือเสี่ยงมากต่อยาเสพติดในพื้นที่
โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้กำหนดให้มีการฝึกอบรมเยาวชนตามโครงการป้องกันเยาวชนนอกสถานศึกษาขึ้นในวันนี้ (25 มี.ค) ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดประจำปี 2551 เพื่อดำเนินการตามแนวทางการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ปฏิบัติการรวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน รวมถึงเพื่อวางระบบให้มีข้อมูลปัญหายาเสพติดเยาวชนนอกสถานศึกษา ประเมินสถานการณ์ รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องและนำไปสู่การเสพยาเสพติด
อีกทั้งสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังดูแลปัญหายาเสพติดโดยมอบหมายให้เป็นสมาชิกแจ้งข่าวยาเสพติดให้กับศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด รวมทั้งเป็นการสร้างภูมิต้านทานยาเสพติดให้แก่เยาวชน หรือกลุ่มเยาวชนนอกสถานศึกษา และส่งเสริม สนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม พัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ด้วยการเสริมพื้นที่และปัจจัยบวก ควบคุม และขจัดพื้นที่เสี่ยง ปัจจัยลบ
ทั้งนี้ นายฉลอง กล่าวถึงผลที่คาดว่าจะได้รับหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม ว่า จะสามารถพัฒนาเยาวชน แกนนำ หรือนอกสถานศึกษา หรือกลุ่มเสี่ยงไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ อันเกิดจากการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
อีกทั้งทุกภาพส่วนได้ให้ความสำคัญต่อปัญหายาเสพติดในทุกกลุ่มเป้าหมายและเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาตามนโยบายเร่งด่วน โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อมิให้ยาเสพติดพลิกกลับจนกระทบต่อความมั่นคงของชาติ