ตรัง – ผู้ว่าฯตรัง ยอมรับหนักใจกับปัญหาการบุกรุกป่า เพราะมีนายทุนหนุนหลังชาวบ้าน การตรวจสอบทำได้ลำบาก
นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้นโยบายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ใน 3 เรื่องเร่งด่วน ประกอบด้วย การปราบปรามยาเสพติด การจัดระเบียบสังคม และการแก้ปัญหาการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ โดยสั่งการให้ปฏิบัติให้ชัดเจนและเห็นผลเป็นรูปธรรม ในระยะเวลา 3 เดือน
สำหรับนโยบายด้านยาเสพติดนั้น ได้แบ่งระยะเวลาในการปฏิบัติออกเป็น 2 ระยะ คือ จะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานไปยังศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทยทุกสัปดาห์ ส่วนแนวทางการปฏิบัตินั้นต้องดำเนินการทุกด้าน ทั้งการปราบปราม การประชาสัมพันธ์ การรณรงค์การแจ้งข่าว เบาะแส การตรวจสอบสารเสพติดทุกชนิด รวมทั้งกัญชา พืชกระท่อม เพื่อสกัดกั้นแหล่งผลิต ซึ่งในส่วนของจังหวัดตรังก็ได้ปฏิบัติมาแล้วอย่างต่อเนื่อง
ส่วนนโยบายด้านการจัดระเบียบสังคม จังหวัดตรัง ได้เน้นการตรวจสถานบริการทุกชนิด เพื่อป้องกันเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ และทำป้ายประกาศข้อห้ามไปติดหน้าสถานบริการทุกชนิด เพื่อให้เจ้าของกิจการได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการ 80-90% ให้ความร่วมมือดีมาก มีเพียงบางคนซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังปฏิบัติฝ่าฝืน แต่จากนี้ไปทางจังหวัดตรังจะทำงานอย่างเคร่งครัดมากขึ้น
สำหรับนโยบายด้านการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาตินั้น ยอมรับว่า เป็นปัญหาที่หนักใจที่สุด เพราะส่วนใหญ่ทำเป็นขบวนการ มีนายทุนหนุนหลัง และอยู่ในป่าลึก บางแห่งบุกรุกบนภูเขา การเดินทางเข้าไปก็ยาลำบาก ส่วนเบาะแสก็ไม่มี จึงยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ก็มีน้อย อีกทั้งโครงสร้างการทำงานของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ก็ยังไม่นิ่ง
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้นโยบายที่ชัดเจนว่า หากจังหวัดใดตรวจสอบแล้วพบว่าผู้บุกรุกป่าไม้เป็นผู้มีอิทธิพล หรือเป็นนักการเมืองในทุกๆ ระดับ ให้ส่งข้อมูลรายงานไปถึงกระทรวงโดยตรง จากนั้นจะมีการส่งชุดตรวจการลงมาปฏิบัติงานแทน ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะทางจังหวัดกลัวอิทธิพล แต่เพื่อเป็นการลดปัญหาความขัดแย้ง และป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับคนปฏิบัติที่อยู่ในพื้นที่ป่าไม้