สุราษฎร์ธานี- “ผช.ผบ.ตร.” เรียกประชุมด่วนหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทุกพื้นที่ภาค 8 กำชับทำงานเชิงรุกหลังบินสำรวจพบการบุกรุกพื้นที่ป่าเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม และป่าต้นน้ำ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินับพันไร่ที่สุราษฎร์ฯ พร้อมขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลรุกที่ป่าแล้ว 30 ราย
ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิสันห์ จุลดิลก รอง ผบช.ภ.8 เรียกประชุมด่วนผู้บังคับการตำรวจภูธร 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน และหัวหน้าสถานีตำรวจทุกพื้นที่ในเขตความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อ มอบนโยบายและกำชับเรื่องการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติทุกพื้นที่ เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเน้นการจับกุมผู้กระทำความผิด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วน เป็นการตอบสนองพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงให้ดูแลปกป้องพื้นที่ป่า
ภายหลังจากขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบสภาพป่าพื้นที่อำเภอพนม จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พบว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมีการบุกรุกตัดโค่นต้นไม้ และเผาพื้นที่ป่าบนเทือกเขาสีสุข เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าย่านยาว-ป่าเขาวง และป่ากระซุ่ม พื้นที่ ต.คลองชะอุ่น ต.ต้นยวน อ.พนม เนื้อที่มากกว่า 1,000 ไร่
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า ภายหลังบินสำรวจพบหลายพื้นที่ มีการบุกรุกจำนวนมาก ทั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติคลองพนม และป่าสงวนแห่งชาติ ได้สั่งกำชับให้เจ้าตำรวจเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการจับกุม
พร้อมให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุมที่สุดเพื่อขยายผลไปให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลังการบุกรุกทำลายป่า พร้อมระบุว่าขณะนี้สำนักงานภาค 8 ได้ขึ้นบัญชีตำรวจภูธรภาค 8 มีผู้มีอิทธิพลบุกรุกป่าแล้วประมาณ 30 ราย