ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มท.1 ยันพร้อมเจรจาฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ เผย จะไม่ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ย้ำชัดเหตุไม่ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะต้องการทราบข้อมูลก่อน ไม่ใช่กลัวตาย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในวันนี้(20มี.ค.) โดยใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง โดยระบุว่า จากการสะท้อนปัญหาของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการในพื้นที่ พบว่า ยังขาดแคลนในเรื่องของอาวุธและเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เช่น เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด และที่เกี่ยวกับนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจพิสูจน์ที่เกิดขึ้น โดยในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) ตนจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามที่ทุกฝ่ายได้เสนอ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในเชิงลึกของฝ่ายทหารและตำรวจ พบว่า บางเรื่องจำเป็นจะต้องมีการเจรจากับนอกประเทศ ซึ่งต้องหาช่องทางติดต่อกับบุคคลที่สามารถคุยกับฝ่ายตรงข้ามได้ สำหรับนโยบายในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ยังยืนว่า จะใช้การเมืองนำการทหาร และความสมานฉันท์เป็นหลัก รวมทั้งวิธีการเจรจาโดยรัฐบาลนี้จะไม่ใช้กำลัง และจำเป็นต้องประสานข้อมูลกับทุกฝ่าย ซึ่งหลังจากนี้จะหารือกับผู้นำศาสนาในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมการประชุมครั้งนี้ไม่เชิญฝ่ายค้าน เหตุผลเพราะเป็นการประชุมปิด แต่ถ้าประชุมเปิดก็พร้อมที่จะเชิญมาเข้าร่วมหารือ
นอกจากนี้ รมว.มหาดไทย ยังยืนยันเจตนาเดิมว่า จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน แต่เหตุผลที่ยังไม่ลงขณะนี้ เพราะต้องการรับทราบปัญหาโดยตรงจากพื้นที่ก่อน เพราะถ้าลงไปจะทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลา ไม่ใช่เพราะกลัวตายหรือเสียดายชีวิต เพราะถ้ากลัวคงไม่รับอาสานายกฯลงมาแก้ปัญหา และไม่จำเป็นต้องห่วงตัวเอง เพราะไม่มีอะไรจะเสียมีแต่ตัวกับหัวใจ และไม่รู้ว่านายกฯจะเปลี่ยนตัววันไหน ส่วนเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง หรือการที่ นายสมัคร เป็นนายกฯ หรือตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่เป็นไปตามสถานการณ์ที่พาไป แต่จริงๆ ตั้งแต่ตนมาทำหน้าที่สถานการณ์รุนแรงลดลงกึ่งหนึ่ง ถามว่าหนักใจไหมกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า หนักใจ ต้องขอพรจากพระอัลเลาะห์ และไว้พระให้ช่วย เพราะเรื่องนี้ต้องอาศัยโชคช่วยด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ตนจะเน้นการใช้เทคโนโลยีในการติดตามงานตรวจสอบความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในแต่ละวันผ่านทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งจะทำให้การกำกับดูแลมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ขอความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้หลงผิดให้กลับตัวกลับใจเข้ามาให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ซึ่งพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรม แต่การที่จะนิรโทษหรือนิรโทษกรรมจะต้องทราบที่มาที่ไปก่อน เช่นเดียวกันหากประชาชนในพื้นที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนผ่านหน่วยงานในพื้นที่ได้โดยตรงทั้ง ศอ.บต. ศูนย์ดำรงธรรม แต่หากไม่มั่นใจก็สามารถร้องเรียนมายังตนได้โดยตรง ซึ่งพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะในเรื่องของการดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม