แพร่ – เหยื่อตำรวจเมืองแพร่ วิ่งโร่ร้อง “เสรีพิศุทธ์” ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ้างถูกตำรวจ สภ.ลอง ยัด 5 ข้อหาให้ลูกชายทั้งที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แพร่ จนต้องวิ่งรอกขึ้นศาลมานานกว่า 3 ปีแล้ว แถมเคยเตรียมยื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร.โดยตรงเมื่อคราวเดินทางมาเปิดสถานีไบโอดีเซลที่เมืองแพร่ แต่กลับถูก ตร.หลอกว่า ผบ.ตร.ไม่มาตามกำหนด
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า นางจันติ๊บ ธิน่าน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157/1 หมู่ 9 บ้านไผ่ล้อม ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ได้นำเอกสารที่ตำรวจ สภ.ลอง จ.แพร่ ดำเนินคดีนายธีรพงษ์ ธิน่าน อายุ 21 ปี ลูกชายของ นางจันติ๊บ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ในชั้นศาล มาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ เมื่อบ่ายวันที่ 18 ก.พ.2551 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ลูกชายของตนเองไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดทั้ง 5 คดี และเป็นผู้บริสุทธิ์แต่ถูกบังคับข่มขู่ให้รับสารภาพ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2548 แต่การร้องขอความเป็นธรรมของตนไม่เป็นผล คดีเข้าสู่การตัดสินของศาล และยังถูกเจ้าทุกข์พร้อมด้วยตำรวจทำการข่มขู่เอาชีวิตอีกด้วย โดยการนำสำนวนคดี 5 สำนวนที่ขึ้นสู่ศาลแล้วมาร้องเพื่อให้มีการสอบสวน และยอมรับในพยานหลักฐานของตนเอง ที่ลูกชายไม่เคยอยู่ในจังหวัดแพร่ ไปทำงานรับจ้างในโรงงานทำรองเท้าอยู่ที่ กทม.
นางจันติ๊บ ลำดับการเกิดเหตุที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีว่า ลูกชายไปทำงานใน กทม.มาตลอด จะกลับมาบ้านในช่วงพัก หรือช่วงที่ทางราชการเกณฑ์คนไปเป็นอาสาสมัคร อพปร.เท่านั้น เมื่อเสร็จก็กลับไปทำงานปกติ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2548 นายธีรพงษ์ ลูกชายได้เดินทางกลับมาช่วยพ่อ คือ นายบุญมี ธิน่าน ทำงานที่สวนพุทราไต้หวัน ปากทางเข้าวัดพระธาตุแหลมลี่ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง เนื่องจากนายบุญมี ประสบอุบัติเหตุแขนหัก
เมื่อเข้าไปช่วยพ่อทำงานในวันแรกก็ถูกตำรวจ นำโดย ด.ต.อุดร ยศวิมลโสภา พร้อมกับพวกจาก สภ.ลอง เข้าไปจับกุม สาเหตุมาจากซิมการ์ด ที่ลูกชายไปพบโดยบังเอิญที่สะพานห้วยอ้อ นำกลับมาใช้ และก็ใช้ได้ แต่ตำรวจติดต่อซิมดังกล่าวได้กลายเป็นซิมจากโทรศัพท์ที่ถูกงัดบ้านของนายพรศักดิ์ ผูกพัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 ซึ่งลูกชายมีหลักฐานว่าไม่ได้อยู่ใน จ.แพร่ และทำงานอยู่ที่ กทม.และมีพยานการเก็บซิมได้ แต่ตำรวจไม่ฟังต้องการดำเนินคดีลูกชายของตน ซึ่งต้องทำให้มีการไปต่อสู้กันในชั้นศาล ต่อมาถูกดำเนินดคีเพิ่มอีก 4 คดี ซึ่งลูกชายไม่ได้กระทำเลย
“นอกจากการดำเนินคดีของตำรวจ สภ.ลอง ที่ไม่ได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้วยังทำการข่มขู่เอาชีวิตถ้าไม่รับสารภาพอีกด้วย”
นางจันติ๊บ กล่าวด้วยว่า ตนได้พยายามเข้าร้องต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เดินทางมาเปิดโครงการใบโอดีเซลที่ สภ.เมืองแพร่ แต่ตำรวจ สภ.ลอง ได้ให้ข้อมูลว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่มาตามกำหนด ทำให้ไม่สามารถยื่นหนังสือได้ ความจริงแล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาตามเวลาที่กำหนดไว้แต่ได้รับการประสานจากตำรวจว่ามีการเปลี่ยนเวลา ทำให้ไม่สามารถยื่นหนังสือได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรพงษ์ ธิน่าน ถูกพนักงานอัยการส่งฟ้องศาล ในวันที่ 13 ธันวาคม 2548 เป็นคดีที่ 1 คือคดีโจรกรรมของในบ้าน และวันที่ 15 มีนาคม 2550 ถูกคดีลักทรัพย์และรับของโจรต่อมาในวันที่ 22 มีนาคม 2550 ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร เป็นคดีที่ 3 ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน 2550 ถูกคดีลักทรัพย์และรับของโจรอีก 1 คดี และในช่วงปลายปีในวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ถูกข้อหาอีก 1 คดีเป็นคดีลักทรัพย์และรับของโจร เป็นคดีที่ 5
นอกจากพนักงานสอบสวนไม่รับฟังคำให้การของผู้ต้องหาแล้วยังทำการข่มขู่เอาชีวิตอีกด้วย โดยนางจันติ๊บ ระบุชัดว่า เป็นตำรวจระดับรอง ผกก.สภ.ลอง เป็นผู้ข่มขู่เอาชีวิต และให้รับสารภาพ ซึ่งเป็นการปิดสำนวนคดีที่ค้างอยู่ใน สภ.ลอง ไปได้ถึง 5 คดี
โดย นางจันติ๊บ มีฐานะยากจนได้พยายามต่อสู้เพื่อลูกชายที่บริสุทธิ์มานานถึง 3 ปี แต่ปรากฏว่ายิ่งต่อสู้คดียิ่งเพิ่มมากขึ้น จึงได้ร้องขอความเป็นต่อ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยสร้างความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านยากจนด้วย