ผบก.ภูเก็ตแจงเงินแสนนำจับฆาตกรฆ่าแหม่มแบ่งให้ทุกฝ่าย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ผบก.ภูเก็ต” โต้! เงินรางวัลนำจับฆาตกรฆ่าแหม่มสวีเดน 1 แสนบาท ไม่ได้มอบให้พ่อผู้ต้องหาเพียงคนเดียว แต่จัดสรรให้พยานอีก 12 ปาก ที่ให้ข้อมูลตำรวจจนตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สั่งตั้งกรรรมการพิจารณาตามความเหมาะสม ใครให้ข้อมูลเป็นจริงมาก ย่อมได้มาก หลีกไม่ได้พ่อ-เมียก็ต้องได้เพราะให้ความร่วมมือ รับหลายคนย่อมหลายความคิด แต่ทำดีที่สุดแล้ว

หลังเกิดเหตุการณ์นายอัครเดช หรือ ชล ตันเก อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/13 ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อคดีสะเทือนขวัญสังหารโหด น.ส.ฮานนา ชาร์ลอตต์ แบ็คลุนส์ อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวชาวสวีเดน ขณะเดินทางมาพักผ่อนพร้อมเพื่อนสาว และเข้าพักที่ไม้ขาว บังกะโล ซึ่งจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากที่พักไปประมาณ 700 เมตร เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยทั้งภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจกองปราบปรามลงพื้นเก็บหลักฐาน สอบปากคำพยานละแวกใกล้เคียงไปประมาณ 12 ปาก เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายจนนำมาซึ่งการติดต่อขอมอบตัวของนายอัครเดช ต่อ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รอง ผบช.ภ.8 พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย และ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.ระนอง

หลังจากหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านหมาราง อ.หมาราง จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามบ้านน้ำแดง หมู่ 5 ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยนายนนท์ ตันเก บิดานายอัครเดช และญาติเดินทางไปรอรับตัวและลงพื้นที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) โดยนายไมตรี นฤขัตพิชัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต มอบเงินรางวัล 100,000 บาท ผ่าน พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสคนร้าย

ในส่วนของพยานประมาณ 12 ปาก มี นายนนท์ ตันเก บิดาของผู้ต้องหาได้รับด้วย จนนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการไม่เหมาะสมที่พ่อผู้ต้องหาจะได้รับเงินจำนวนดังกล่าว เพราะลูกชายทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย และเสียชื่อเสียง

ต่อกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า เงินรางวัลที่จะมอบให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสคนร้าย จำนวน 100,000 บาท ที่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวมอบให้นั้น ยืนยันว่า เงินจำนวน 100,000 บาท ไม่ได้มอบให้นายนนท์ ตันเก บิดาของผู้ต้องหาเพียงคนเดียวแต่อย่างใด แต่จะมีการจัดสรรให้กับพยานรายอื่นๆ อีก ที่เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 12 ปาก

ขณะนี้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาความเหมาะสมของผู้ที่จะได้รับเงินรางวัลจำนวนดังกล่าวแล้ว โดยมี พ.ต.อ.วิทยเดช วรดิลก รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย เป็นผู้พิจารณา และพยานแต่ละปากก็จะได้รับเงินรางวัลไม่เท่ากันด้วย ขึ้นอยู่กับว่า พยานรายใดให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนมากที่สุด และใกล้เคียงที่สุด จนนำมาซึ่งการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด

โดยการพิจารณาตนสั่งการให้ดำเนินการเป็นนโยบายสำคัญ ต้องพิจารณาตามความเป็นจริง และเหมาะสม ซึ่งจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้ที่ต้องได้รับเงินรางวัลมี นายนนท์ ตันเก บิดาของผู้ต้องหา และภรรยาของผู้ต้องหา ได้รับด้วย เพราะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูล และไม่ปิดบังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งให้ความร่วมมือโดยการเกลี้ยกล่อมให้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวสู้คดีแทนที่จะสนับสนุนให้หลบหนีการจับกุม

หากเป็นเช่นนั้น เชื่อว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องยุ่งยากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะพยานบุคคลที่เป็นคนในครอบครัวผู้ต้องสงสัย คือ ผู้ที่จะให้ข้อมูลได้มากที่สุด และตนยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่ตำรวจทุกหน่วยทำดีที่สุดแล้ว และเชื่อว่า ยังมีคนอีกมากที่เข้าใจ