ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ภูเก็ตขอศาลออกหมายศาลจับฆาตกรโหดผู้ต้องหาคดีฆ่านักท่องเที่ยวชาวสวีเดนแล้ว ขณะที่ตำรวจตั้งชุดไล่ล่ากระชั้นชิดหลังหลบหนีไปชุมพร ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเผยเหตุสุดวิสัย เตรียมทำหนังสือแสดงความเสียใจกับครอบครัวเหยื่อสาว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (18 มี.ค.) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ปวีณ พงษ์ศิรินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และชุดพนักงานสอบสวน ร่วมกันแถลงข่าวการขอหมายจับผู้ต้องหาฆ่านักท่องเที่ยวชาวสวีเดน ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2551 ที่บริเวณชายหาดไม้ขาวว่า
จากการสอบปากคำพยานในพื้นที่จำนวน 12 ปาก ทำให้ขณะนี้ทราบชัดเจนแล้วว่าผู้ต้องหาเป็นใคร เนื่องจากพยานให้การตรงกัน ตำรวจภูธรภูเก็ตจึงได้ขอหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่อจับกุมผู้ต้องหารายนี้แล้ว คือ นายดัครเดช หรือชล หรือสายชล หรือธัชชัย ตันเก อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/13 ม.5 ต.ท่าฉัตรชัย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อาชีพรับจ้างทั่วไป ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งศาลได้อนุมัติตามหมายศาลที่ จ.1213/2551
สำหรับนายอัครเดช เคยโดนข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุเกิดขึ้นในท้องที่สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมชอบซุ่มดูนักท่องเที่ยวอาบน้ำตามชายหาด
นายนิรันดร์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ และถือว่าเป็นคดีที่ร้ายแรง สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย เป็นอย่างมาก ซึ่งทุกหน่วยก็พยายามอย่างเต็มที่ในการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ หลังจากนี้จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วน
ในเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายหลบหนีไปยังจังหวัดชุมพรตั้งแต่เช้าวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดชุดติดตามไล่ล่า ภายใต้การสั่งการของตำรวจภูธรภาค 8 แล้ว สำหรับผู้ต้องหารายนี้จากการสืบปากคำ มีการยืนยันชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำความผิด และที่ยังหลบหนีอยู่นั้นทางญาติให้การว่า ผู้ต้องหากลัวโทษประหารชีวิต
นายนิรันดร์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า จังหวัดจะทำหนังสือแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย ส่วนมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวจังหวัดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และมีการดำเนินการกันมาอย่างเข้มงวด ที่ผ่านมาถ้ามีคดีเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นคดีอะไรทางตำรวจจะต้องรายงานให้ทางจังหวัดทราบ และถือว่าทำกันมาเต็มที่ตลอด
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยเหนือการควบคุม เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปลี่ยว บังกะโลที่พักมีเพียง 4 หลังเท่านั้น การเข้าไปดูแลของเจ้าหน้าที่ทำได้ไม่ทั่วถึง เนื่องจากกำลังใจหน้าที่ตำรวจมีน้อย ในจังหวัดภูเก็ตนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายจะต้องดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนมากถึง 6,000 คน แต่ก็จะพยายามปรับแผนในการทำงานให้เข้มข้นขึ้นโดยเฉพาะในจุดเสี่ยงต่างๆ ถ้ามีความจำเป็นจะต้องด่านตรวจก็ให้ตั้งด่านตรวจเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
