ภูเก็ต - มือฆ่านักท่องเที่ยวสาวชาวสวีเดนเข้ามอบตัวแล้ว หลังหนีไปกบดานชายแดนพม่าด้านอำเภอกระบุรีจังหวัดระนอง หลังจากที่พ่อไปรับตัวพร้อมตำรวจภูเก็ต
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายอัครเดช ตันเก อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่านางสาวฮานนา ชาร์ลอตต์ อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวสาวชาวสวีเดน ที่หาดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เดินทางกลับถึงจังหวัดภูเก็ตแล้ว หลังเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย และพล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง หลังจากที่หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านหมาราง อ.หมาราง จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ตรงข้ามบ้านน้ำแดง หมู่ที่ 5 ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีนายนนท์ ตันเก บิดานายอัครเดช พร้อมด้วยญาติพี่น้องเดินทางไปรอรับตัวด้วยตัวเองเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย
ทั้งนี้ หลังจากเข้ามอบตัวเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเบื้องต้นที่บ้านพักของ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง โดย พล.ต.ต.ธวัช ได้สอบปากคำนายอัครเดช ในเบื้องตน ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาไม่เคร่งเครียดแต่อย่างใด พร้อมกับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านางสาวฮานนา หลังจากที่ได้พยายามข่มขืนแต่แหม่มสาวขัดขืนจึงได้ใช้มือซ้ายล็อกคอแล้วใช้มีดที่พกไปแทงจนเสียชีวิต โดยได้ลงมือเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุมาจากความเครียดเรื่องครอบครัว
พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวภายหลังสอบปากคำผู้ต้องหานานกว่า 1 ชั่วโมงว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารแต่ไม่ได้ข่มขืนเพราะผู้เสียชีวิตขัดขืนจึงจำเป็นต้องฆ่า ส่วนสาเหตุมาจากความเครียดเรื่องครอบครัว ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ถือเป็นผลงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยร่วมมือกัน ทั้งตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ตำรวจภูธรท่าฉัตรชัย ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจกองปราบปราม ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนไม่สามารถให้ได้ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้แถลงข่าวเองในเวลา10.00 น.วันนี้
ขณะที่ นายนนท์ ตันเก บิดานายอัครเดช กล่าวว่า ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าลูกชายจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ก็ดีใจที่ลูกชายยอมมอบตัวออกมาสู้ความจริง ดีกว่าหลบหนีเพราะอาจจะถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายอัครเดชก่อเหตุในวันที่ 15 มีนาคมแล้ว ในวันรุ่งขึ้นได้นั่งรถทัวร์ภูเก็ต-ชุมพร ตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปหาภรรยาที่ จ.ชุมพร โดยไปลงรถที่สี่แยกปฐมพร อ.เมืองชุมพร ในช่วงเย็นของวันที่ 16 มีนาคม จากนั้นเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งบ้านเดิมอยู่ที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง ได้โทรศัพท์ไปบอกให้ไปหาญาติของเพื่อนที่อำเภอกระบุรี เพราะตำรวจกำลังตามล่าตัวผู้ที่ฆ่านางสาวฮานนาอยู่ นายอัครเดชจึงได้จ้างเหมารถจักรยานยนต์รับจ้างย้อนกลับให้ไปส่งที่ อ.กระบุรี ในราคา 1,200 บาท แล้วนอนพักค้างที่บ้านของเพื่อนหนึ่งคืน
กระทั่งในตอนเช้าของวันที่ 17 มีนาคม 2551 เพื่อนที่อยู่ภูเก็ตได้โทรศัพท์มาหาอีกครั้งหนึ่งโดยให้นั่งเรือข้ามแม่น้ำกระบุรีไปหลบซ่อนตัวบ้านญาติของเพื่อนที่บ้านหมาราง อ.หมาราง จ.เกาะสอง แต่หลังจากที่รู้สถานที่หลบซ่อนตัวเป็นที่แน่นอนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามที่รับผิดชอบจึงได้ประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดระนองเพื่อติดตามจับกุม แต่ปรากฏว่านายอัครเดช ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในเขตประเทศพม่า ไม่สามารถเข้าไปจับกุมได้
ตลอดทั้งวันของวันที่ 18 มีนาคม มีความพยามติดต่อให้นายอัครเดขออกมามอบตัวแต่ไม่เป็นผล จึงได้ให้นักธุรกิจในพื้นที่เป็นผู้ติดต่อประสานงานอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้นายอัครเดชออกมามอบตัว แต่นายอัครเดชไม่มั่นใจในความปลอดภัยต้องการให้บิดาไปอยู่ด้วยขณะมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจึงได้พาบิดาและญาติพี่น้องจากจังหวัดภูเก็ตขึ้นรถตู้ไปถึงจุดนัดหมาย ที่บ้านน้ำแดง อ.กระบุรี จังหวัดระนองในเวลา 01.00 น.วันที่ 19 มีนาคม 2551 เมื่อเห็นบิดานายอัครเดชก็นั่งเรือข้ามฝั่งกลับเข้ามามอบตัวในที่สุด