ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรรมการสิทธิมนุษยชนลงพื้นที่ภูเก็ตช่วยเหลือชาวไทยใหม่ไม่มีสัญชาติ 44 ราย ด้านสาธารณูปการ
คุณหญิงอัมพร มีศุข คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ กล่าวที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังร่วมหารือระหว่างกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับส่วนราชการใน จ.ภูเก็ต ต่อประเด็นการจัดการด้านสิทธิของกลุ่มชาวไทยใหม่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตว่า ที่มาชาวไทยใหม่ในอดีตเป็นผู้อพยพมาจากอินโดนีเซียเมื่อเกือบ 200 ปีก่อนโดยได้เข้ามาอาศัยอยู่บนเกาะเฮ และย้ายมาอยู่ที่หาดราไวย์ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันมีการอยู่อาศัยประมาณ 200 กว่าครอบครัว มีประชากรมากกว่า 2,000 คน
โดยที่ผ่านมาชาวบ้านหมู่บ้านไทยใหม่ใด้ยื่นเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับการจัดที่อยู่อาศัย การทำอาชีพประมง ระบบประปาสาธารณะ ระบบระบายน้ำ และการจัดให้มีบัตรประชาชนแก่บุคคลที่ตกสำรวจ รวมทั้งปัญหากรณีความขัดแย้งด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การประกอบอาชีพในพื้นที่หลายลักษณะ อาทิ การตัดสายยางท่ออากาศหายใจของชาวไทยใหม่ที่ดำน้ำลงไปจับปลา เป็นต้น ซึ่งทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ติดตามปัญหานี้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นในส่วนของประเด็นสถานะบุคคล จากการสำรวจพบประชากรชาวไทยใหม่ มีปัญหาสถานะบุคคลคือไม่มีสัญชาติมีอยู่ประมาณ 44 คนใน 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ตำบลรัษฎา, บ้านสะปำ ตำบลเกาะแก้ว และราไวย์ ในการแก้ปัญหานั้นจะนำเสนอบุคคลตกหล่นดังกล่าวใน พรบ.ใหม่ 2 ฉบับ
ส่วนประเด็นด้านการศึกษาของเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนหนังสือนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้ามาก โดยเด็กสามารถเข้าเรียนในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น ขณะที่สาธารณูปโภค ประปา ไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการวางท่อประปา บางส่วนอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของพื้นที่
คุณหญิงอัมพร มีศุข คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ กล่าวที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังร่วมหารือระหว่างกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับส่วนราชการใน จ.ภูเก็ต ต่อประเด็นการจัดการด้านสิทธิของกลุ่มชาวไทยใหม่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตว่า ที่มาชาวไทยใหม่ในอดีตเป็นผู้อพยพมาจากอินโดนีเซียเมื่อเกือบ 200 ปีก่อนโดยได้เข้ามาอาศัยอยู่บนเกาะเฮ และย้ายมาอยู่ที่หาดราไวย์ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันมีการอยู่อาศัยประมาณ 200 กว่าครอบครัว มีประชากรมากกว่า 2,000 คน
โดยที่ผ่านมาชาวบ้านหมู่บ้านไทยใหม่ใด้ยื่นเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับการจัดที่อยู่อาศัย การทำอาชีพประมง ระบบประปาสาธารณะ ระบบระบายน้ำ และการจัดให้มีบัตรประชาชนแก่บุคคลที่ตกสำรวจ รวมทั้งปัญหากรณีความขัดแย้งด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การประกอบอาชีพในพื้นที่หลายลักษณะ อาทิ การตัดสายยางท่ออากาศหายใจของชาวไทยใหม่ที่ดำน้ำลงไปจับปลา เป็นต้น ซึ่งทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ติดตามปัญหานี้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นในส่วนของประเด็นสถานะบุคคล จากการสำรวจพบประชากรชาวไทยใหม่ มีปัญหาสถานะบุคคลคือไม่มีสัญชาติมีอยู่ประมาณ 44 คนใน 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ตำบลรัษฎา, บ้านสะปำ ตำบลเกาะแก้ว และราไวย์ ในการแก้ปัญหานั้นจะนำเสนอบุคคลตกหล่นดังกล่าวใน พรบ.ใหม่ 2 ฉบับ
ส่วนประเด็นด้านการศึกษาของเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนหนังสือนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้ามาก โดยเด็กสามารถเข้าเรียนในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น ขณะที่สาธารณูปโภค ประปา ไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการวางท่อประปา บางส่วนอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของพื้นที่
