นครศรีธรรมราช - ทหารกร่างยิงปืนขึ้นฟ้า ตำรวจไล่ล่า ขับรถ ฝ่าเข้ากองทัพภาค 4 หนีทะลุไปอีกฝั่ง ปะทะเดือด หัวหน้าทีมเจอกระสุนแขนทะลุหมดฤทธิ์โดนรวบพร้อมพวกรวม 3 คน สั่งปิดข่าวหวั่นบานปลายเหมือนกรณีตำรวจฆ่าทหารที่ สน.ประชาชื่น
วานนี้ (17 มี.ค.) พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัดบริเวณหน้า"เวนิสผับ"ย่านโรงแรมอาคารพาณิชย์ทวินโลตัส ริมถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังก่อเหตุคนร้ายได้ใช้รถยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน บร-2113 นครศรีธรรมราช โดยติดป้ายทะเบียนเฉพาะด้านหน้า ส่วนด้านหลังไม่ติดหลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช
พ.ต.ท.สมชาย จึงวิทยุสั่งการให้ตำรวจสายตรวจและสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรมที่ออกปฏิบัติหน้าที่ทุกเขตใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ระดมกำกังออกสกัดจับกุมคนร้ายทุกเส้นทาง โดยคนร้ายพยายามจะขับรถซิ่งหลบหนีเลี้ยววกวนไปตามถนนสายต่าง ๆ โดยเจ้าหน้าที่ขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ไล่กวดติดตามอย่างกระชันชิด
จนกระทั่งพบว่ารถคนร้ายขับเข้าทางหน้าค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 และผ่านกองรักษาการณ์ปากทางเข้าค่ายเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งขออนุญาตสารวัตรทหารที่รักษาการว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของคนร้ายที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุม สารวัตรทหารจึงอนุญาตให้รถตำรวจผ่านเข้าไปภายในค่ายทหารได้ ในขณะที่กำลังตำรวจอีกจำนวนหนึ่งได้กระจายกำลังปิดล้อมเส้นทางสายถนนอ้อมค่ายวชิราวุธเผื่อคนร้ายจะเลี้ยวซ้ายออกจากค่ายทหารหลบหนีขึ้นถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ
ปรากฏว่ารถคนร้ายขับรถความเร็วสูงผ่านกองรักษาการสารวัตรทหารทางออกจากค่ายวชิราวุธ บริเวณตลาดท่าแพ ต.ปากพูน โดยรถตำรวจไล่กวดติดตามไปอย่างกระชันชิด และพบว่ารถคนร้ายขับผ่านสะพานข้ามคลองท่าแพ ไปได้ประมาณเกือบ 1 ก.ม. จึงยูเทิร์นกลับทางเดิมเมื่อสวนทางกับรถตำรวจ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 1 นัด โชคดีกระสุนไม่ถูกใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับไปยูเทิร์นกลับไล่กวดรถคนร้ายอย่างไม่ลดละ ในขณะที่คนร้ายยิงใส่รถของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จ.ส.ต.ประยรู ถาวรสุข จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกยิงล้อยางรถของคนร้ายแต่กระสุนพลาดไปถูกฝากระบะท้ายรถของคนร้าย
ในที่สุดรถคนร้ายได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปทางแยกเข้าวัดท่าม่วง และวกขวาเข้าไปทางวิทยาลัยสารพัดช่าง คนร้ายคนที่นั่งข้างซ้ายยื่นมือออกมาเพื่อยิงสกัดรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังช้ากว่า จ.ส.ต.ประยรู ที่ระเบิดกระสุนใส่และกระสุนโดนแขนขวาคนร้าย พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนลูกซอง 5 นัดยิงขู่ขึ้นฟ้าและประกาศให้คนร้ายหยุดรถยอมมอบตัวแต่โดนดี คนร้ายจึงหยุดรถกลางถนนเจ้าหน้าที่จึงบุกชาร์ทเข้าไปควบคุมตัวคนร้ายที่อยู่ในรถยนต์ได้ 3 คน พร้อมยึดอาวุธปืนขนาด .357 ได้ 1 กระบอก ในรังเพลิงพบกระสุน 1 นัด และปลอกกระสุนคาอยู่ 5 ปลอก แต่คนร้ายละคนมีกลิ่นสุราโชยคลุ้ง
จากการตรวจตรวจสอบพบว่าฝากระโปรงหลังรถคนร้ายโดนกระสุนเจาะเป็นรู 1 รู กระจกด้านหน้ามีรอยถูกยิงออกมาจรากภายในรถ 1 รู ภายในรถพบแมกกาซีนบรรจุกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 40 นัด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบคนร้ายถูกยิงแขนขวาทะลุเลือดไหลโชก 1 คน จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาส่งมอบให้ พ.ต.ต.สุทธิชัย ชัยรัตน์ สวส.เวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในเบื้องต้นทราบชื่อผู้ต้องหาที่ถูกยิงบาดเจ็บคือ ส.ท.อนุวัฒน์ ขาวสนิท อายุ 28 ปี เป็นทหารสังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 "ป.พัน 5"ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 283 หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไต้เต๊กตึ้งนำส่งโรงพยาบาลมหาราช
ส่วนอีก 2 คน ทราบชื่อ ส.ท.กัมปนาถ ขุนนุ้ย และ ส.ต.กิตติ บัวแก้วฉีด สังกัดเดียวกันกับ ส.ท.อนุวัฒน์ และอยู่ในอาการเมาสุราอย่างหนัก ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเค้นสอบถามถึงอาวุธปืนขนาด 9 มม. หรือ 11 มม. ที่พยานยืนยันว่าเป็นปืนที่ทหารนอกแถวกลุ่มนี้ใช้ยิงขู่ขึ้นฟ้าประกาศศักดาหน้าเวนิสผับ แต่ทหารทั้งสองคนปิดปากเงียบไม่ยอมพูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าปืนขนาด 9 มม.หรือ 11 มม.กระบอกดังกล่าวอาจจะถูกโยนทิ้งในช่วงที่ตำรวจบุกชาร์ทเข้าจับกุมก็เป็นได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับทหารทั้ง 3 นาย 4 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย 1. มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไปในสถานที่สาธารณโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต 2. มีเครื่องกระสุนปืนสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ยิงปืนในสถานที่สาธารณด้วยไม่มีเหตุอันควร 4. ต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ และได้ติดต่อนายทหารพระธรรมนูญเดินทางมาร่วมสอบสวนตามขั้นตอนในระเบียบและข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.สุทธิชัย ชัยวัฒน์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมนายทหารพระธรรมนูญได้ร่วมสอบสวนปากคำผู้ต้องหาที่เป็นทหารยศ ส.ท. และ ส.ต. แต่ไม่ยอมบอกชื่อกับผู้สื่อข่าว โดยบอกให้ไปสอบถามชื่อ 2 ผู้ต้องหาทหารนอกแถวกับนายทหารพระธรรมนูญเองเอง แต่นายทหารพระธรรมนูญ ก็ไม่ยอมเปิดเผยชื่อพร้อมทั้งขอร้องไม่ให้นำเสนอข่าวนี้ ในขณะที่นายตำรวจระดับสูงก็พยายามจะขอร้องไม่ให้นำเสนอข่าวเช่นกัน โดยอ้างว่าในขณะนี้ทหารกำลังมีเรื่องบาดหมางกับตำรวจกรณีที่ตำรวจยิงสารวัตรทหารเสียชีวิตในท้องที่ สน.ประชาชื่น หากนำเสนอเหตุการณ์นี้อาจจะทำให้สถานการณ์ระหว่างตำรวจกับทหารบาดหมางกันรุนแรงมากขึ้น
