xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊ง “ลูกงูเห่าดรีมทีม” อายุ 12-15 ปี ลัก จยย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - สุดสลดสังคมเสื่อมทราม ตำรวจนครศรีธรรมราชรวบแก๊ง “ลูกงูเห่าดรีมทีม” 14 คนอายุ 12-15 ปี อาละวาดลัก จยย. ยึดของกลางคืนได้เกือบ 10 คัน แฉทั้งหมดล้วนครอบครัวแตกแยกพ่อแม่แยกทางกัน หาเงินเที่ยวเตร่ ติดเกม

สุดสลดปัญหาเด็กและเยาวชนที่หันมาก่อคดีอาชญากรรมในสังคมมากขึ้น ตำรวจเมืองนครศรีธรรมราชจับกุม 14 ยุวโจรตั้งแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ร.ต.ต.เอกวิทย์ เกิดศิริ ร้อยเวร สภ.เมือง นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุอุบัตคิเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันบนถนนสายพัฒนาการคูขวาง หากทางเข้าหมู่บ้านเมืองทอง ต.ในเมือง อ.เมือง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน

จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไต้เต๊กตึ้งรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ อาร์ซี สีเขียว สภาพเก่า ทะเบียน ธ-7535 นครศรีธรรมราช ชนกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาว ทะเบียน ขท-551 นครศรีธรรมราช สภาพรถทั้เงสองคันพังเสียหายเล็กน้อย ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก 2 คน ทราบชื่อ ด.ช.ตั้ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ ด.ช.แบงค์ (นามสมติ) อายุ 13 ปี โดยได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณคาง หัวเข่าและแขนขาถลอกปอกเปิก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จึงนำส่ง รพ.มหาราช และนำรถจักรยานยนต์ของกลางนำมาเก็บไว้ที่โรงพัก

ต่อมาได้มีนายอดิศักดิ์ อนุพันธ์ อายุ 31 ปี คนพิการหูหนวก เป็นใบ้ ซึ่งเป็นอาสาสมัครใบ้มูลนิไต้เต๊กตึ้ง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ไปเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา บริเวณร้านน้ำชาเงียบ (คนใบ้) หน้าวัดชะเมา ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และได้แจ้งความกับตำรวจไว้แล้ว พร้อมเพื่อนที่เป็นคนปกติเดินทางมาที่โรงพักเพื่อแจ้งข้อมูลเบาะแสกับตำรวจว่า หลังจากที่คนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของตนไปแล้ว พบว่าคนร้ายเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 13-14 ปี จำนวน 2-3 คนนำรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมไปมาขับเที่ยวเตร่เยอะเย้ยตน 2-3 เที่ยว

จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก็พบว่ารถจักรยานยนต์ของนายอดิศักดิ์ อนุพันธ์ คือรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ อาร์ซี สีเขียว สภาพเก่า ทะเบียน ธ-7535 นครศรีธรรมราช เป็นรถคันเดียวกันกับที่ชนกับรถยามาฮ่า มีโอ ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านเมืองทอง ถนนพัฒนาการคูขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปรับตัว ด.ช.ตั้ม และ ด.ช.แบงค์ จาก รพ.มหาราช มาสอบสวนปากคำอย่างหนัก

จนในที่สุดทั้งสองก็เปิดปากรับสารภาพหมดเปลือกว่าได้ร่วมกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอายุระหว่าง 12-15 ปี ตั้งแก๊งส์โจรกรรมรถจักรยานยนต์ตามจุดต่างๆ ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะหน้าห้างโรบินสัน โอเชี่ยน หน้าห้างคาร์ฟูร์ และที่จอดอยู่ตามหน้าตลาดสดหรือในชุมชนต่างๆ โดยก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก. พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดชา สว.สป.และ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป. จึงเรียกประชุมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันปราบปราม เพื่อร่วมกันสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมคนร้ายร่วมแก๊ง

จากนั้นจึงแยกย้ายกันออกปฏิบัติการตามเป้าหมาย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาร่วมแก๊งส์ได้อีก 12 คน เป็นผู้ชาย 11 คน ผู้หญิง 1 คน ที่อาศัยอยู่ตามชุมชนต่าง ๆ หลายแห่ง พร้อมตามยึดรถจักรยานยนต์ของกลางได้จำนวน 8 คัน ชิ้นส่วนอะไหล่และปะแจขนาดต่างๆ อีกจำนวนมาก จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่โรงพัก ขณะเดียวกันมีผู้ปกครองของผู้ต้องหาเดินทางมาเยี่ยมบุตรหลานและผู้เสียหายเดินทางมาตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของกลางจนทำให้บรรยากาศคึกคักโรงพักคับแคบไปถนัดตา

จากการสอบสวนปากคำ ด.ช.ตั้ม หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่าตนและเพื่อนๆ ซึ่งส่วนใหญ่พ่อแม่แยกทางกัน ในการใช้ชีวิตประจำวันจึงไม่ค่อยมีพ่อแม่ ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด และส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงออกเที่ยวเตร่ไปเรื่อยๆ จนมีโอกาสได้รู้จักกันเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่ครอบครัวมีปัญหาเหมือน ๆ กัน

อย่างไรก็ตาม มีเพื่อนๆ จำนวนหนึ่งที่มีพ่อแม่ผู้ปกครองพร้อมและยังเรียนหนังสือระดับ ม.1-ม.2 รวมอยู่ในกลุ่มของพวกตนหลายคน กลุ่มของพวกตนจึงมีสมาชิกเกือบ 20 คน และด้วยสาเหตุที่พวกตนไม่ค่อยมีเงินใช้จ่ายเหมือนเด็กทั่วๆ ไป

ในครั้งแรกตนจะขโมยรถจักรยานยนต์เก่าๆ คันหนึ่งนำไปขายให้กับร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ร้านหนึ่งได้เงินมา 1,200 บาท จึงเห็นว่าวิธีการดังกล่าวสามารถหาเงินมาเที่ยวเตร่ หรือเล่นเกมส์ ได้อย่างไม่ยากเย็น ตนจึงชวนเพื่อนๆ ออกขโมยรถจักรยานยนต์เรื่อยมา โดยจะเลือกเอาเฉพาะรถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อที่สภาพเก่าๆ เนื่องจากส่วนใหญ่จะไม่ล็อคกุญแจ และกุญแจสามารถใช้วัตถุเล็กๆ ไขได้อย่างไม่ยากเย็น

สำหรับรถที่ได้มาส่วนใหญ่บรรดาผู้เสียหายก็ไม่ค่อยสนใจที่จะติดตามคืน เพราะเห็นว่าเป็นรถสภาพเก่าๆ ที่สำคัญเมื่อรถจักรยานยนต์หายตำรวจก็มักจะสอบสวนสืบสวนพุ่งเป้าไปที่กลุ่มอื่นๆ ไม่ค่อยสนใจกลุ่มเด็กๆ อย่างพวกตน ทำให้พวกตนได้ใจตั้งเป็นแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ในระยะแรกๆ เรียกแก๊งตัวเองว่า “แก๊งลูกงูเห่า” เมื่อมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเรียกตัวเองว่า “แก๊งลูกงูเห่าดรีมทีม” ออกก่อเหตุอย่างต่อเนื่องนับครั้งไม่ถ้วน

เมื่อโจรกรรมมาได้ก็จะนำไปขายให้กับร้านซ่อมรถจักรยานยนต์คันละ 700-2,500 บาท บางส่วนขายให้บุคคลทั่วไปที่ต้องการซื้อ บางส่วนก็นำมาชำแหละขายอะไหล่ บางส่วนก็เก็บไว้ใช้กันเอง จนกระทั้งไปขโมยรถจักรยานยนต์ของนายอดิศักดิ์ อนุพันธ์ คนใบ้ที่เปิดร้านขายน้ำชาริมถนนราชดำเนิน หน้าวัดชะเมา ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และขับมาประสบอุบัติเหตุชนกับรถจักรยานยนต์อีกคันจึงถูกตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมได้เกือบยกแก๊งส์ดังกล่าว

ด.ญ.สวย อายุ 14 ปี กล่าวว่า ตนเป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นแฟนกับ ด.ช.หล่อ (นามสมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.3 นักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ในช่วงปิดเทอมมักจะหาเวลาว่างมาอยู่กับ ด.ช.หล่อที่บ้านของ ด.ช.หล่อ โดยพ่อแม่ของ ด.ช.หล่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ตนจึงอยู่กันอย่างอิสรเสรี ซึ่งจะมีเพื่อนๆ แวะเวียนมามั่วสุมกันอย่างต่อเนื่อง

สำหรับพฤติกรรมของ ด.ช.หล่อและเพื่อนๆ ที่ออกขโมยรถจักรยายยนต์นั้นตนก็ทราบดี และตนไม่ได้รังเกียจที่ ด.ช.หล่อมีพฤติกรรมเป็นโจร เพราะรัก ด.ช.หล่อมาก ตนยอมทุกอย่างขอเพียงได้เป็นแฟนกับ ด.ช.หล่อก็พอแล้ว โดยพ่อแม่ของตนก็ทราบว่าตนเป็นแฟนกับ ด.ช.หล่อแต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ห้ามปราม บางครั้ง ด.ช.หล่อขับรถจักรยานยนต์ไปรับตนถึงบ้าน โดยในช่วงปิดเทอม ด.ช.หล่อจะไปรับตนมาอยู่ที่บ้านเป็นประจำ จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

ด.ช.บอย ผู้ต้องหาอีกรายบอกว่า พวกตนจะตระเวนไปมั่วสุมกันตามบ้านเพื่อนๆ โดยหากวันใดบ้านใครไม่มีพ่อแม่อยู่พวกเราก็จะไปรวมตัวกัน ก่อนจะออกก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์
 
สำหรับแก๊ง “ลูกงูเห่าดรีมทีม” มีนายตั้ม เป็นหัวหน้าแก๊ง และมีตนเป็นรองหัวหน้าแก๊ง การออกก่อเหตุก็ไม่ยากเลย มันง่ายมากใช้เวลาเพียง 1 นาทีก็สำเร็จแล้ว และในจำนวนสมาชิกที่ถูกจับกุมมี ด.ช.บอย อายุ 12 ปี เพิ่งเข้ามาใหม่ พวกตนจึงพาไปฝีกงานโดยการฝึกให้ไปดูลู่ทางลาดเลา และแจ้งให้พวกตนเข้าโจรกรรมรถเป้าหมายต่อไป และคาดว่าในวันสองวันนี้จะให้ ด.ช.บอย ลงมือขโมยด้วยตัวเองแต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ทางด้าน พ.ต.ท.ธวัชชัย ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.ป.เปิดเผยว่า ยอมรับว่าตำรวจมองข้ามกลุ่มยุวชนเหล่านี้ เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กอายุแค่นี้จะมีพฤติกรรมในการตั้งแก๊งส์ก่อคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ที่ผ่านมาตำรวจสงสัยพฤติกรรมของคนร้ายที่ชอบโจรกรรมรถจักรยานยนต์เก่าๆ จนรายล่าสุดรถจักรยานยนต์ของคนใบ้โดยโจรกรรมไปจากบริเวณหน้าร้านน้ำชาริมถนนราชดำเนิน หน้าวัดชะเมา และคนร้ายเกิดขับไปประสบอุบบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น เรื่องจึงแดงขึ้นมา

เชื่อว่าการสอบสวนขยายผลต่อไปจะมีผู้เสียหายและตามยึดของกลางได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน และนอกจากการโจรกรรมรถจักรยานยนต์แล้วเชื่อว่าเด็กกลุ่มเดียวกันนี้ได้ก่อคดีลักเล็ก ขโมยน้อย หรืองัดแงะเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินตามสถานที่ต่างๆ อีกหลายคดีแน่นอน
 

“ผมยอมรับว่าเมื่อเห็นผู้ต้องหาแก๊งนี้แล้วตนพูดอะไรไม่ออกเลย สังคมเสื่อม ครอบครัวแตกแยกส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนถึงขนาดนี้ แล้วอนาคตของเด็กพวกนี้จะเป็นอย่างไร สังคมในวันข้างหน้าจะมีปัญหารุนแรงมากกว่านี้อย่างแน่นอน จึงอยากให้พ่อแม่ ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการดูแล อบรมสั่งสอนบุตรหลานอย่างใกล้ชิดกว่านี้ ก่อนที่สังคมจะย่ำแย่ไปมากกว่านี้”
กำลังโหลดความคิดเห็น