นครศรีธรรมราช – คนขับรถบรรทุก 18 ล้อผวาแก๊งปาหินอาละวาดบนถนนเอเชียสาย 42 คืนเดียวก่อเหตุปาหินใส่กระจกรถ 3 คันรวด โชเฟอร์ไม่กล้าจอดเกรงถูกปล้น มุ่งหน้าแจ้งความเป็นหลักฐาน ตำรวจเตรียมจัดสายตรวจดูแลความปลอดภัย
เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (17 มี.ค.) พ.ต.ต.วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตรเวร สภ.นาบอน จ.นครศรีฯ เปิดเผยว่าได้มีคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อจำนวน 3 รายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สภ.นาบอน ว่าโดนแก๊งปาหิน ปาหินใส่โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนเอเชียสาย 41 บ้านควนลูกปัด ต.แก้วแสน อ.นาบอน นครศรีฯ ทั้ง 3 รายโดยกระจกรถแตกทั้ง 3 รายแต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยรายแรกคือนายไพรัช วงศ์ทองดีอายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.14 ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ว่าขณะที่กำลังขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อกลับมาจากการส่งสินค้าที่หาดใหญ่ จ.สงขลา และเมื่อขับรถมาถึงบริเวณถนนเอเชียสาย 41 บ้านควนลูกปัด ต.แก้วแสน อ.นาบอน ได้ยินเสียงของแข็งกระทบที่กระจกหน้ารถและเห็นกระจกมีรอยร้าว ก็นึกว่าโดนอะไรทำท่าจะจอดรถลงดูแต่นึกขึ้นมาได้ อาจจะเป็นพวกแก๊งปาหินและหากจอดรถอาจจะโดนปล้นได้ จึงตัดใจขับรถต่อและแจ้งความที่ สภ.นาบอน เพื่อเป็นหลักฐานไว้
ในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีนายพันธศักดิ์ ชำนาญศิลป์อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่17/1ม.13 ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อได้มาแจ้งความต่อ พ.ต.ต.วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตรเวรคนเดิมว่า ขณะขับรถมาถึงบริเวณถนนเอเชียสาย 41 บ้านควนลูกปัด ต.แก้วแสน อ.นาบอนได้มีก้อนหินโผล่มาจากไหนไม่ทราบปาใส่กระจกหน้ารถแตกแต่ไม่ได้จอดรถและขับมาแจ้งความ เพราะหากจอดเกรงจะไม่ปลอดภัย
อีกรายในเวลาไล่เลี่ยกัน นายภานุมาศ ขำนิภัทร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.63 ต.หนองเพราฮาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้มาแจ้งความต่อสารวัตรคนเดิมว่าขับรถพ่วง 18 ล้อมาตามถนนเอเชียสาย 41 จุดเดียวกัน โดนแก๊งปาหินปาหินใส่กระจกรถแตก และก็ไม่ได้จอดรถแต่อย่างใดได้ขับต่อมาจนถึง สภ.นาบอน เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน
พ.ต.ต.วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตรเวร สภ.นาบอน กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความในข้อหาทำให้เสียทรัพย์แล้วได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่พบสิ่งใด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายแก๊งปาหินที่ปาหินใส่รถบรรทุกเพื่อให้เกิดความเสียหายหากรถบรรทุกจอดก็อาจจะมีการปล้นทรัพย์
อีกกรณีหนึ่งอาจจะเป็นการกระทำของพวกที่คึกคะนองเห็นมีข่าวเกี่ยวกับแก๊งปาหินก็ทำบ้างเพราะคึกคะนอง ซึ่งตำรวจก็จะมีการจัดตำรวจสายตรวจคอยดูและบริเวณที่เกิดเหตุต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง และได้ฝากเตือนบรรดาโชเฟอร์รถบรรทุกทั้งหลายว่าหากไม่เสียหายมากหรือไม่จำเป็นจริงๆ ก็อย่าจอดรถเมื่อโดนปาหินเพราะอาจจะเป็นฝีมือแก๊งปล้นก็เป็นได้
เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (17 มี.ค.) พ.ต.ต.วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตรเวร สภ.นาบอน จ.นครศรีฯ เปิดเผยว่าได้มีคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อจำนวน 3 รายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สภ.นาบอน ว่าโดนแก๊งปาหิน ปาหินใส่โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนเอเชียสาย 41 บ้านควนลูกปัด ต.แก้วแสน อ.นาบอน นครศรีฯ ทั้ง 3 รายโดยกระจกรถแตกทั้ง 3 รายแต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยรายแรกคือนายไพรัช วงศ์ทองดีอายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.14 ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ว่าขณะที่กำลังขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อกลับมาจากการส่งสินค้าที่หาดใหญ่ จ.สงขลา และเมื่อขับรถมาถึงบริเวณถนนเอเชียสาย 41 บ้านควนลูกปัด ต.แก้วแสน อ.นาบอน ได้ยินเสียงของแข็งกระทบที่กระจกหน้ารถและเห็นกระจกมีรอยร้าว ก็นึกว่าโดนอะไรทำท่าจะจอดรถลงดูแต่นึกขึ้นมาได้ อาจจะเป็นพวกแก๊งปาหินและหากจอดรถอาจจะโดนปล้นได้ จึงตัดใจขับรถต่อและแจ้งความที่ สภ.นาบอน เพื่อเป็นหลักฐานไว้
ในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีนายพันธศักดิ์ ชำนาญศิลป์อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่17/1ม.13 ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อได้มาแจ้งความต่อ พ.ต.ต.วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตรเวรคนเดิมว่า ขณะขับรถมาถึงบริเวณถนนเอเชียสาย 41 บ้านควนลูกปัด ต.แก้วแสน อ.นาบอนได้มีก้อนหินโผล่มาจากไหนไม่ทราบปาใส่กระจกหน้ารถแตกแต่ไม่ได้จอดรถและขับมาแจ้งความ เพราะหากจอดเกรงจะไม่ปลอดภัย
อีกรายในเวลาไล่เลี่ยกัน นายภานุมาศ ขำนิภัทร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.63 ต.หนองเพราฮาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้มาแจ้งความต่อสารวัตรคนเดิมว่าขับรถพ่วง 18 ล้อมาตามถนนเอเชียสาย 41 จุดเดียวกัน โดนแก๊งปาหินปาหินใส่กระจกรถแตก และก็ไม่ได้จอดรถแต่อย่างใดได้ขับต่อมาจนถึง สภ.นาบอน เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน
พ.ต.ต.วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตรเวร สภ.นาบอน กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความในข้อหาทำให้เสียทรัพย์แล้วได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่พบสิ่งใด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายแก๊งปาหินที่ปาหินใส่รถบรรทุกเพื่อให้เกิดความเสียหายหากรถบรรทุกจอดก็อาจจะมีการปล้นทรัพย์
อีกกรณีหนึ่งอาจจะเป็นการกระทำของพวกที่คึกคะนองเห็นมีข่าวเกี่ยวกับแก๊งปาหินก็ทำบ้างเพราะคึกคะนอง ซึ่งตำรวจก็จะมีการจัดตำรวจสายตรวจคอยดูและบริเวณที่เกิดเหตุต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง และได้ฝากเตือนบรรดาโชเฟอร์รถบรรทุกทั้งหลายว่าหากไม่เสียหายมากหรือไม่จำเป็นจริงๆ ก็อย่าจอดรถเมื่อโดนปาหินเพราะอาจจะเป็นฝีมือแก๊งปล้นก็เป็นได้