ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมตชด.ที่ 214 และหน่วยป้องกันรักษาป่าอ.สังขะ สุรินทร์ สกัดจับรถบรรทุกขนไม้พะยูงเถื่อนอื้อกว่า 100 ท่อน มูลค่าส่งออกต่างประเทศกว่า 10 ล้าน แต่เจ้าหน้าที่รัฐยังทำงามหน้าไม่เลิกเผยทั้งทหาร-ตร.ยศ “พ.ต.ท.” พยายามวิ่งเต้นจ่ายเงินชุดจับกุมให้ปล่อยรถพร้อมของกลาง แฉลักลอบตัดไม้ชายแดนไทย-ลาว-กัมพูชา ส่งออกต่างประเทศทำเป็นขบวนการใหญ่ โดยมีจนท.รัฐเกี่ยวข้องด้วย
วันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุรินทร์ ว่า ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 214 นำโดย พ.ต.ท.กุลภัทร อุทธิเสน ผู้บังคับกองร้อย ตชด.214 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.สุรินทร์ และหน่วยป้องกันรักษาป่า อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้สกัดจับรถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 70-5987 ราชบุรี หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวลักลอบขนไม้พะยูงผิดกฎหมายจำนวนมาก จาก เขต อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ มุ่งหน้ามาตาม ทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ผ่านฐานที่ตั้งของตชด.ที่ 214
โดยรถบรรทุกคันดังกล่าว ได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่ กลับวิ่งฝ่าจุดตรวจไป เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงสกัดเข้าที่ล้อรถทำให้ยางแตก จนกระทั่งขับต่อไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ควบคุมตัว นายอารียะห์ ยอฮารี บินอาแว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 6 ต.ดาวะ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คนขับ และ นายอภินันท์ แสงมะณี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 5 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย นั่งมาในรถ ไว้สอบสวน
พร้อมตรวจยึดไม้พะยูงผิดกฎหมายที่ตัดเป็นท่อนบรรทุกมาเต็มคันรถจำนวน 110 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งหากสามารถลักลอบส่งออกขายต่างประเทศได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวและยังพบว่า ทะเบียนรถที่ติดแสดงไว้กับบริเวณท้ายและหน้ารถบรรทุกคันดังกล่าวเป็นทะเบียนปลอม ส่วนทะเบียนจริง คือ หมายเลข 70-0707 นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมทั้ง 2 คน และตรวจยึดไม้พะยูงของกลางทั้งหมดไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายณรงค์ นาคนิยม เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การจับกุมไม้พะยูงครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายข่าวว่าจะมีการเคลื่อนย้ายไม้พะยูงจากเขตพื้นที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ และ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้ระดมกำลังตั้งจุดตรวจสกัดจับกุมคนขับรถบรรทุกและตรวจยึดของกลางได้ทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมการลักลอบขนไม้พะยูงผิดกฎหมายจำนวนมากในครั้งนี้ ปรากฎว่าได้มีผู้ที่อ้างตัวเป็น “ทหาร” โทรศัพท์มาติดต่อขอจ่ายค่าผ่านทาง เพื่อให้ปล่อยรถบรรทุกพร้อมไม้พะยูงไป แลกกับเงินกว่า 5 หมื่นบาท แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ได้ปฏิบัติตาม หลังจากนั้นยังมีผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจยศ “พันตำรวจโท” โทรศัพท์มาเพื่อขอให้ปล่อยรถบรรทุกพร้อมไม้พะยูง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ชุดกับกุมปฎิเสธเช่นกัน และบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจดังกล่าวยังได้นั่งรถยนต์เข้ามาติดต่ออีก ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นทะเบียนรถปลอมเช่นกัน
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้รับข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ นายหนึ่งเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ดังกล่าวด้วย
สำหรับไม้พะยูงที่จับกุมได้ ครั้งนี้ เป็นไม้ที่ทำการลักลอบตัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และ ไทย-สปป.ลาว ในเขตพื้นที่จังหวัดอีสานตอนล่าง โดยทำกันเป็นขบวนการใหญ่ และขนย้ายแบบกองทัพมด ด้วยการทยอยตัดแล้วนำมารวมไว้เมื่อได้จำนวนมากพอแล้วจึงนำขึ้นรถบรรทุก ส่งต่อไปยังเขตพื้นที่จังหวัดปริมณฑลรอบกรุงเทพฯ ก่อนที่จะนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกทางเรือไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยการสำแดงข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ซึ่งหากสามารถส่งออกขายต่างประเทศได้จะมีราคาสูงขึ้นอีกนับสิบเท่าตัว ซึ่งไม้พะยูงที่จับกุมได้ครั้งนี้จะมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ขณะที่คนขับรถบรรทุกไม้พะยูงทั้ง 2 คน ให้การกับเจ้าหน้าที่เบื้องต้นว่า เป็นเพียงผู้รับจ้างขับรถเท่านั้น โดยมีคนนำทั้ง 2 คน มาส่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน อ. สังขะ แล้วนำรถบรรทุกมาให้ขับต่อไปยัง จ.สระบุรี จากนั้นจะมีคนมาขับต่อไปอีกทอดหนึ่ง โดยได้ค่าจ้างจำนวน 1 หมื่นบาท ส่วนไม้พะยูงเป็นของใครนั้น ไม่ทราบ