ปัตตานี – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดหน้าโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทำการเก็บกู้ระเบิดได้อีก 1 ลูก ขณะที่แขกของโรงแรมยังเข้าพักตามปกติ แต่มีบางส่วนที่ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดจังหวัดปัตตานี ได้นำกำลังเข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิดหน้าโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อีกครั้ง เพื่อตรวจหาวัตถุพยานหลักฐานของการคาร์บอม
หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ระเบิดที่คนร้ายนำมาก่อเหตุในครั้งนี้ใช้ควบคุมด้วยอะไรและมีจำนวนกี่ลูก แต่ก็ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้ได้มากนัก เพราะบริเวณจุดเกิดเหตุพนักงานโรงแรมได้มีการโยกย้าย และปัดกวาดทำความสะอาด ทาสี เรียบร้อยไปเสียแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่วิทยาการ และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุได้รับแจ้งว่า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดตกอยู่บนหลังคาบ้านเลขที่ 297/19 หมู่ที่ 4 ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 80 เมตร จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบเป็นถังเคมีดับเพลิงสีแดง สถาพถูกแรงระเบิดอัดก๊อบปี้ ด้านในมีการบรรจุดินระเบิดน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม สภาพพร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงได้มีตรวจสอบสภาพของระเบิด พบว่า โชคดีที่วงจรจุดชนวนระเบิดนั้น ได้ถูกทำลายแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเก็บกู้และทำลายระเบิดทันที
จากการตรวจสอบที่มาของวัตถุระเบิดดังกล่าว คาดว่า น่าจะเป็นระเบิดอันเดียวกันที่คนร้ายได้นำมาวางพร้อมกันในรถยนต์คันที่คนร้ายใช้ทำคาร์บอมบ์ แต่ระเบิดไม่ทำงานและถูกแรงอัดระเบิดกระเด็นลอยไปตกบนหลังคาบ้านของชาวบ้าน
ส่วนบรรยากาศที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี ก็ยังคงมีผู้คนทยอยมาพักและใช้บริการตามปกติ มีการจัดทำเวทีสัมมนาประชุมก็ยังคงดำเนินตามปกติ แต่เมื่อแขกของโรงแรมเดินเข้าออกบริเวณลานด้านหน้าโรงแรม และไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำการกู้ระเบิด จึงมีหลายคนที่ยังตื่นตกใจกับเหตุการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานนาทีระทึกเหตุคาร์บอมบ์ ว่า เมื่อเวลา 20.20 น.ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในห้องน้ำหญิง ข้างห้องบุหงา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้ผู้คนออกมารวมกันบริเวณลานตรงบันไดขึ้นลงจากจุดจอดรถยนต์ ซึ่งเป็นที่นั่งดื่มชาชัก ชื่อดังของโรงแรม ซี.เอส.ต่อมาเวลาห่างกันประมาณครึ่งชั่วโมง ได้เกิดระเบิดดังขึ้นจำนวน 2 ลูก บริเวณรถยนต์เก๋งที่จอดติดกับบันได จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวน 14 ราย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า คนร้ายได้ซุกระเบิดในรถยนต์เก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ภน 5039 กทม.ซึ่งเจ้าของเดิมเป็นชาวจังหวัดสุราษฏร์ แต่ได้นำไปขายให้กับเต็นท์รับซื้อรถยนต์มือสอง ร่วมหลายเดือนมาแล้ว เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องชุดชนวนด้วยนาฬิกาข้อมือ พ่วงกันจำนวนหลายเรือน เชื่อมติดกับแผงวงจรบรรจุในกล่องสีดำ ขณะนี้เจ้าหน้ากำลังตรวจสอบอย่างละเอียด จึงยังไม่สามารระบุแน่ชัดว่าเป็นวงจรชนิดใด