ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “สดศรี” ลงพื้นที่ภูเก็ตมอบนโยบายเชื่อเลือกตั้งท้องถิ่นแข่งขันสูง เหตุมีฐานเสียงการเมืองระดับชาติหนุน พร้อมระบุพรรคการเมืองไม่น่าส่งผู้สมัครได้ ส่วนคดีตัดสินยุบพรรคทราบผล 18 มี.ค.นี้ เผยไต๋ไม่อยากให้ยุบ อ้างกลัวความวุ่นวาย
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งด้านบริหารงานพรรคการเมือง กล่าวภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 20 เมษายนนี้ และรับสมัครในระหว่างวันที่ 17-21 มีนาคมนี้ ว่า จากที่ได้รับรายงานคาดว่าในภูเก็ตจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะผู้ที่จะลงสมัครจะมีฐานเสียงสนับสนุนมาจากนักการเมืองระดับชาติ
“แต่ก็ไม่น่าจะมีความรุนแรงถึงขั้นที่จะใช้อาวุธ เพราะส่วนใหญ่ผู้สมัครจะรู้จักกันมาก่อน ซึ่งก็ได้ให้นโยบายกับทางเจ้าหน้าที่ขอให้มีการวางตัวเป็นกลาง และให้มีการทำความเข้าใจกับผู้สมัคร เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทำผิดหรือขัดต่อกฎหมายการเลือกตั้ง เพราะไม่อยากจะให้มีการเลือกตั้งซ้ำหลายครั้งเหมือนกับบางจังหวัดที่มีการเลือกตั้งกันถึง 5 ครั้ง”
นางสดศรี ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคประกาศส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดด้วยว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะกระทำได้ เพราะขณะนี้ได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องวิธีการหรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารส่วนต้องถิ่น พ.ศ.2551 ออกมาแล้ว ซึ่งมีด้วยกัน 7 ข้อ โดยในข้อที่ 6 ได้กล่าวว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งห้ามมิให้ผู้สมัครกระทำการหรืออาศัยผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งแก่ตนเองหรือผู้อื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร
“หากดูตามเนื้อหาแล้วจึงไม่สามารถทำได้ แม้ว่าในความเป็นจริงของการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นตามพฤตินัยเราก็จะทราบกันอยู่แล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะมีพรรคการเมืองให้การสนับสนุนอยู่ เพียงแต่อาจจะไม่โจ่งแจ้งนัก เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติท้องถิ่นได้ เพราะในการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องการที่จะให้ผู้ที่ลงสมัครนั้นเป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ใช่ตัวแทนของพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวนั้น ทราบว่า ทางพรรคการเมืองกำลังจะทำหนังสือเข้ามาหารือเพื่อขอทราบความชัดเจน รวมทั้งในเรื่องของการนำรูปของหัวหน้าพรรคมาใช้เป็นโปรเตอร์ร่วมกับผู้สมัครด้วย” นางสดศรี กล่าว
ส่วนกรณีของการยุบพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตยและพรรคชาติไทยนั้น นางสดศรี กล่าวว่า จะทราบผลการพิจารณา ในวันอังคารที่ 18 มีนาคมนี้ว่า จะมีการยุบพรรคการเมืองดังกล่าวเกิดขึ้นหรือไม่ แต่จริงๆ แล้วไม่อยากให้มีการยุบพรรคการเมืองใดเกิดขึ้น เพราะหากมีการยุบพรรคการเมืองเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็จะก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมา
รวมทั้งยังทำให้การบริหารประเทศสะดุดและจะมีคนฉวยโอกาสจัดระเบียบ และจะได้รัฐบาลซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังมีผลตามมาในส่วนของความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่อาจจะงดการให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนประเทศไทย
ทางด้านการตัดสินกรณีของพรรคพลังประชาชนว่าเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยหรือไม่นั้น นางสดศรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสิน ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 15 วันเพื่อเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาให้ปากคำกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง