xs
xsm
sm
md
lg

ภรรยา 2 ผู้ต้องหาเจไอถูกกัมพูชาตัดสินจำคุกตลอดชีวิตร้องส่งตัวสามีกลับดำเนินการในไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ภรรยาของ 2 ผู้ต้องหา เจไอที่ ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เรียกร้องให้ส่งตัวสามีกลับดำเนินการในไทย เผยต้องรับภาระหนัก และค่าใช้จ่ายดำเนินการสูง เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษจากในหลวง

วันนี้ (12 มี.ค.) เวลา 10.00 น.ที่สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย อ.เมือง จ.ยะลา นางอาแอเสาะ หยีเจ๊ะมิง และ นางปาริด๊ะ มะดิง ได้เดินทางมาพบคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมและดำเนินการให้ความช่วยเหลือ กรณีที่ศาลประเทศกัมพูชา ได้พิพากษา นายอับดุลอาซิ หะยีเจ๊ะมิง และ นายมูฮำหมัดยาลาลูดิน มะดิง ที่เดินทางเข้าประเทศกัมพูชาเพื่อเผยแพร่และสอนศาสนาอิสลาม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545

ต่อมาถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา และกล่าวหาว่า ทั้งสองเป็นสมาชิกขบวนการก่อการร้าย เจไอ และต่อมาได้กลับตั้งข้อกล่าวหาใหม่ ว่า เป็นผู้เตรียมการก่อการร้ายต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ณ กรุงพนมเปญ ประจำประเทศกัมพูชา ทั้งที่สามีเป็นเพียงครูสอนศาสนา ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือไปร่วมกับขบวนการก่อการร้ายทั้งในประเทศและต่างประเทศแต่อย่างใด จึงเดินทางมาร้องให้สังคม ได้รับทราบชะตากรรมของสามี และในวันนี้ ศาลกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกตลอดชีวิต

นางอาแอเสาะ หะยีเจ๊ะมิง อายุ 33 ปี ภรรยา นายอับดุลอาซิ หะยีเจ๊ะมิง กล่าวว่า หลังศาลกัมพูชาได้ตัดสิน ตนเองไม่คัดค้าน ถึงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่อยากให้ส่งตัวสามี มาควบคุมตัวที่ประเทศไทย เพราะตัวเองมีความเดือดร้อนอย่างหนัก นับตั้งแต่สามีถูกดำเนินคดีในไประเทศกัมพูชา ต้องรับภาระเลี้ยง ลูก จำนวน 3 คน และค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก หากต้องอยู่ ที่ประเทศกัมพูชา ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเยี่ยมสูง และคาดหวังว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องจะให้ความช่วยเหลือ เพื่อนำตัวสามีกลับมายังประเทศไทย

ขณะที่ นางปาริด๊ะ มะดิง อายุ 42 ปี ภรรยา นายมูฮำหมัดยาลาลูดิน มะดิง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปี ตนเองต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส รับภาระเลี้ยงลูก จำนวน 6 คน จึงจำเป็นต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม เมื่อศาลกัมพูชาได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นตน แล้ว ตนอยากให้ ส่งตัวสามีกลับมาดำเนินการในไทย เพราะกฎหมาย การดำเนินการในกัมพูชามีความสลับสับซ้อน ที่ผ่านมาตนเองได้ดำเนินการขออภัยโทษให้ปล่อยตัวหรืออภัยโทษจากรัฐบาลกัมพูชา แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

จึงคาดหวังว่า เมื่อกลับมาที่ประเทศไทยจะดำเนินการกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์กันต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น