ปัตตานี - ศาลจังหวัดปัตตานี ตัดสินพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต 5 ผู้ต้องหาในคดีฆ่าแล้วเผาพระวัดพรหมประสิทธิ์ในเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนที่เหลืออีก 6 คนศาลยกฟ้อง เหตุพยานหลักฐานอ่อน ทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศาลจังหวัดปัตตานี นายวิริยะ แดงบรรจง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี ได้ขึ้นนั่งบัลลังค์พิพากษาคดีดำหมายเลข อ.120/49 คดีศาสนาในการก่อความไม่สงบที่พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 นายอาดือนัน วาเตะ กับพวกรวม 11 คนประกอบด้วย นายอับดุลเลาะ สาเมาะ, นายมะโซเร เจะสนิ, นายมูฮำหมัด ดือเระ, นายมะรอสลี ตีมุง, นายสุกรี บิงมะ, นายอับดุลเลาะ อาแว, นายตอเฮ สาเระ, นายเพ็ญดี แบวา, นายมะหามะ แบฮะ, และนายอับดุลฮาเล็ง สาเระ ในข้อหา “ฆ่าแล้วเผาพระวัดพรหมประสิทธิ์” อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2548
ศาลได้พิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 2, 3, 4 และ 9 ให้จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากพยานที่เป็นพระเห็นหน้าและชี้รูปที่พนักงานสืบสวนให้ดูจำเลยได้ถูกและจำเลยทั้ง 5 คน สารภาพในชั้นควบคุมที่ ศปก.ส่วนหน้า ยะลา และที่ว่าสารภาพนั้นเพราะถูกเจ้าหน้าที่ซ้อม จำเลยทั้ง 5 ไม่ได้แจ้งความศาลจึงไม่เชื่อว่า ถูกเจ้าหน้าที่ซ้อมจริง
ส่วนจำเลยที่ 5, 6, 7, 8, 10 และ 11 นั้น ศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้อง เนื่องจากจำเลยทั้ง 6 คน พยานหลักฐานไม่ชัดเจน เป็นเพียงคำซักทอดของผู้ต้องหาบางคน ว่า ร่วมกระทำด้วย ประจักษ์พยานที่เห็นไม่มีชี้ชัดว่า จำเลยทั้ง 6 คน ร่วมก่อเหตุ และในชั้นสืบสวนจำเลยทั้ง 6 คนให้การปฏิเสธตลอด
นายกอเดร์ กอแต ชมรมทนายความมุสลิมแห่งประเทศไทย ทนายของจำเลย กล่าวว่า ในส่วนของจำเลยทั้ง 5 คน ที่ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนั้นมีความเห็นว่าจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศาลจังหวัดปัตตานี นายวิริยะ แดงบรรจง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี ได้ขึ้นนั่งบัลลังค์พิพากษาคดีดำหมายเลข อ.120/49 คดีศาสนาในการก่อความไม่สงบที่พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 นายอาดือนัน วาเตะ กับพวกรวม 11 คนประกอบด้วย นายอับดุลเลาะ สาเมาะ, นายมะโซเร เจะสนิ, นายมูฮำหมัด ดือเระ, นายมะรอสลี ตีมุง, นายสุกรี บิงมะ, นายอับดุลเลาะ อาแว, นายตอเฮ สาเระ, นายเพ็ญดี แบวา, นายมะหามะ แบฮะ, และนายอับดุลฮาเล็ง สาเระ ในข้อหา “ฆ่าแล้วเผาพระวัดพรหมประสิทธิ์” อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2548
ศาลได้พิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 2, 3, 4 และ 9 ให้จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากพยานที่เป็นพระเห็นหน้าและชี้รูปที่พนักงานสืบสวนให้ดูจำเลยได้ถูกและจำเลยทั้ง 5 คน สารภาพในชั้นควบคุมที่ ศปก.ส่วนหน้า ยะลา และที่ว่าสารภาพนั้นเพราะถูกเจ้าหน้าที่ซ้อม จำเลยทั้ง 5 ไม่ได้แจ้งความศาลจึงไม่เชื่อว่า ถูกเจ้าหน้าที่ซ้อมจริง
ส่วนจำเลยที่ 5, 6, 7, 8, 10 และ 11 นั้น ศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้อง เนื่องจากจำเลยทั้ง 6 คน พยานหลักฐานไม่ชัดเจน เป็นเพียงคำซักทอดของผู้ต้องหาบางคน ว่า ร่วมกระทำด้วย ประจักษ์พยานที่เห็นไม่มีชี้ชัดว่า จำเลยทั้ง 6 คน ร่วมก่อเหตุ และในชั้นสืบสวนจำเลยทั้ง 6 คนให้การปฏิเสธตลอด
นายกอเดร์ กอแต ชมรมทนายความมุสลิมแห่งประเทศไทย ทนายของจำเลย กล่าวว่า ในส่วนของจำเลยทั้ง 5 คน ที่ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนั้นมีความเห็นว่าจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน
