กระบี่ - ผอ.สศค.คาดเศรษฐกิจไทยในปี 51 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.5 ชี้ ปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศ ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันดิบของตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง และค่าเงินบาทที่ผันผวน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับทางลบต่อหลายภาคการผลิต
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ห้องประชุมนพรัตน์ โรงแรมกระบี่มารีไทม์ ปาร์ค แอนด์สปา รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวในที่ประชุมสัมมนาวิชาการเวทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายใต้โครงการขยายบทบาทสำนักงานเศรษฐกิจการคลังสู่ภูมิภาค ว่า การสัมมนาได้แบ่งออกเป็น 2 ภาค โดยในภาคเช้า เป็นการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ภาพรวมเศรษฐกิจไทย 2551” และเป็นการสัมมนาหัวข้อ “แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อจังหวัดกระบี่”
สำหรับภาคบ่ายเป็นการสัมมนาในหัวข้อ “เอกซเรย์เงินเงินทองทอง” ในประเด็นประชาชนและสถาบันการเงินเดินไปพร้อมกันได้อย่างไร และดูแลเงินฝากอย่างไรกับรูปแบบการคุ้มครองเงินฝากใหม่
ในการสัมมนาเรื่อง “ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2551” ผู้อำนวยการสำนักงานสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.1 ต่อปี ในปี 2549 เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีการชะลอตัว
โดยมีปัจจัยหลักจากการขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนทั้งภายในและนอกประเทศ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าและบริการที่ยังขยายตัวดี รวมถึงการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐผ่านการบริโภคและการลงทุน ช่วยพยุงเศรษฐกิจโดยรวมไม่ให้ชะลอตัวลงมากนัก
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2551 สศค.คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2551 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.5 ต่อปี โดยมีปัจจัยการขับเคลื่อนหลักจากการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนที่น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น และนโยบายการคลังแบบขาดดุล รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยอาจจะเผชิญปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศที่สำคัญ อันได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันดิบของตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง และค่าเงินบาทที่ผันผวน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับทางลบต่อหลายภาคการผลิต ทั้งภาคการท่องเที่ยว ประมง การขนส่ง และเกษตรกรรม
นอกจากนี้ ในที่ประชุม นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการจังหวัดกระบี่ ยังได้เสนอนโยบายในการรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกต่อจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยมาตรการภาคการท่องเที่ยว
ได้แก่ การขยายฐานตลาดนักเที่ยวที่มีคุณภาพสูง การส่งเสริมการท่องเที่ยวนอกภาคฤดูกาล และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังได้เสนอมาตรการภาคการเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ได้แก่ การส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมให้ภาคเอกชนเปิดตลาดคู่ค้าใหม่ และสนับสนุนงานวิจัยเพื่อลดต้นทุนการผลิตและมาตรการทางด้านการค้าการลงทุน ได้แก่ พัฒนาและสร้างความเข็มแข็งแก่ธุรกิจ SME
มาตรการด้านลอจิสติกส์ ได้แก่ พัฒนาสนามบิน ถนน ทางเชื่อมรถไฟ และท่าเรือน้ำลึกให้สามารถรองรับการคมนาคมขนส่งที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีนโยบายของภาครัฐ ได้แก่ การกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ การใช้นโยบายภาษี และดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนการลงทุนในภาคเอกชน รวมถึงการเร่งทำโครงการ Mega Project ให้เป็นรูปธรรม
ก่อนการสัมนาทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้มอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และทุนสนับสนุน การดำเนินงานของโรงเรียนในจังหวัดกระบี่ ในโครงการ สศค.ปันน้ำใจให้การศึกษาแก่เด็กน้อยด้วย
