xs
xsm
sm
md
lg

“สรนันท์” เปิดแถลงข่าวถูกป้ายสี-ฝากผู้นำต้องยอมรับการตรวจสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “สรนันท์ เสน่ห์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทย เปิดแถลงข่าวถูกสื่อบางฉบับใส่ร้าย พร้อมฝากถึงผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องยอมรับเป็นบุคคลสาธารณะพร้อมถูกตรวจสอบ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมภูเก็ตทาวน์อิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสรนันท์ เสน่ห์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคชาติไทย ได้เปิดแถลงข่าว โดยใช้ประเด็น ว่า เรื่อง กรณี นายสรนันท์ เสน่ห์ ร้องเรียนนายก อบจ.ภูเก็ต ว่า จากกรณีที่ได้ร้องเรียน นายก อบจ.ภูเก็ต (นางอัญชลี วานิช เทพบุตร) กระทำการขัดต่อ พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 44/3(3) และได้ถูกสื่อมวลชนบางฉบับกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี ดูถูกเกียรติยศ หรือแม้กระทั่งผู้ที่ถูกร้องเรียนด้วยก็ตามว่าเป็นพวกอีแอบทางการเมือง

จึงอยากจะฝากบอกไปถึงผู้นำองค์กรที่มาจากการเลือกตั้ง ว่า ท่านทั้งหลาย คือ บุคคลสาธารณะ เมื่อกล้าเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน ก็ต้องยอมรับในกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารบ้านเมืองหากไม่มี เปรียบเสมือนเหตุการณ์เลวร้ายในบ้านเมืองในอดีตที่ผ่านมาที่ผู้นำระดับประเทศ ไม่ยอมรับในกระบวนการตรวจสอบ บ้านเมืองจึงวุ่นวายตามมา และฝากไปถึงผู้ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ และคิดที่จะลงสมัครเพื่อเล่นการเมือง ว่า หากกลัวการตรวจสอบโดยภาคประชาชน ก็ไม่ต้องลงสมัครให้อยู่กับบ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานดีกว่า

ในฐานะที่เป็นผู้ร้องเรียน และอดีตเคยเป็นผู้สัมคร ส.ส.ในนามพรรคชาติไทยจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากที่ได้ทำเรื่องร้องเรียนไม่ว่าจะเป็นกรณียื่นให้ กกต.ภูเก็ต สอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง และกรณีนายก อบจ.ภูเก็ต กระทำการขัดต่อ พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 44/3(3) จนถูกผู้ร้องเรียนและหนังสือพิมพ์บางฉบับโจมตี ก็ไม่ได้ถือโกรธ เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่คิดจะฟ้องสื่อฉบับดังกล่าวด้วย

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนร่วมกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.อีก 4 พรรคการเมือง เกี่ยวกับเรื่องเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัคร ส.ส.บางพรรค และมติ กกต.กลางออกมา 3 ต่อ 2 โดยสามเสียงบอกว่าไม่มีมูล ส่วนอีกสองบอกว่าข้อมูลชัด ซึ่งตนก็น้อมรับในคำวินิจฉัย และไม่ถือเป็นเรื่องแปลก หรือว่าไม่สมควรกระทำ เป็นการกระทำไปตามกฎระเบียบของ กกต.ที่วางไว้ ไม่มีการกลั่นแกล้ง ไม่มีการใส่ร้าย ทุกเรื่องที่ร้องเรียนมีหลักฐานมีข้อมูลชัด ผู้ที่ถูกร้องเรียนก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบ ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด

สำหรับการร้องเรียนยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนของใคร และเป็นตัวของตัวเอง มีเพื่อนมีฝูงร่วมความคิด ในการลงสมัครอะไรก็ตามไม่มีใครมาจ้าง หรือบังคับให้มาลงเพื่อรับผลประโยชน์ และไม่เคยได้ประโยชน์จากการเล่นการเมือง ตลอดเวลาที่เข้าสู่การเมืองไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่น หรือระดับชาติ มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง

โดยบอกกับตัวเองเสมอมาว่าเราทำอะไร ต้องยืนอยู่กับความถูกต้อง และความชอบธรรม การเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนไม่ใช่เข้ามาเพื่อหวังสร้างภาพ หรือเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและสร้างบารมีให้กับตนเอง ซึ่งตนนั้นคิดเองได้ เลือกทางเดินเองได้ ไม่ต้องคอยไปรับใช้ใคร เพื่อหวังผลประโยชน์ให้กับตัวเอง และไม่เคยขอใคร

เรื่องสุดท้ายกรณีร้องเรียน นายก อบจ.กระทำผิดขัดต่อ พ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 44/3(3) ขณะนี้เรื่องยังไม่สิ้นสุด โดยอยู่ในกระบวนการของกฤษฎีกา ซึ่งต้องรอผลว่าจะออกมาอย่างไร และในขณะที่ นายก อบจ.ชิงลาออก (เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา) ไปแล้วด้วยนานาเหตุผล ก็อยากฝากสื่อมวลชนว่าใครพูดเรื่องจริง หรือพูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียวให้ช่วยเกาะติดเรื่องนี้ด้วย และตนได้มีการทำหนังสือหารือปัญหาข้อกฎหมายกรณี นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ได้ลาออกจากการเป็นนายก อบจ.ในระหว่างที่มีการสอบสวนต่อผู้ว่าฯ ภูเก็ตไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น