กระบี่ - นายกท่องเที่ยว ชี้ ประเทศอินเดียน่าจับตาเป็นพิเศษ พบ เศรษฐีใหม่เกิดใหม่เป็นจำนวนมาก เตรียมทำตลาดดึงเที่ยวกระบี่
นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ประเทศอินเดีย เป็นประเทศหนึ่งที่น่าจะเข้าไปทำตลาดด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดในขณะนี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ เพราะด้วยศักยภาพของชาวอินเดียเอง มีประชากรเป็นจำนวนมาก ที่มีฐานะติดขั้นระดับเศรษฐี และเท่าที่ได้สัมผัสกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ยังพบว่า เมื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว ก็จะมีการใช้จ่ายต่อหัว/คนสูงมาก และโรงแรมที่เข้าพักก็จะพักโรงแรมหรูๆ ตั้งแต่ 4-5 ดาวขึ้นไป ซึ่งตนมองว่าเป็นประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุด
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการเข้าไปทำตลาดในประเทศอินเดีย ยังไม่มีหน่วยงานใดของรัฐ หรือภาคเอกชนเข้าไปบุกเบิกทำตลาดอย่างจริงจัง มีเพียงกลุ่มผู้ประกอบการบางรายเท่านั้นที่เข้าไปทำตลาดอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก หากมีการเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจัง ตนเชื่อว่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน
ที่สำคัญ ความแตกต่างในด้านวัฒนธรรม อาหารการกินของประเทศไทย และประเทศอินเดีย ก็ไม่ต่างกันมากนัก จึงเป็นประเทศที่ไม่น่ามองข้าง และที่สำคัญ การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย จะเดินทางมาเป็นครอบครัว ซึ่งมีความแตกต่างกันมากกับกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป
“สำหรับการทำตลาดของสมาคมร่วมกับสมาคมโรงแรม และ ททท.จะเดินทางไปทำตลาดแถบประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน ที่จะถึงนี้ เพื่อทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหน้าไฮซีซัน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะขึ้นชื่อในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ จังหวัดกระบี่ และฝั่งอันดามัน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าโลว์ฯ แต่ฝนตกก็ไม่ตกชุกตลอดทั้งวัน บางช่วงอากาศดีเหมือนกับช่วงหน้าไฮซีซันจึงเป็นข้อดี ที่จะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามา และต่อไปอาจจะเข้าไปตลาดในประเทศอินเดียด้วย”
นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ประเทศอินเดีย เป็นประเทศหนึ่งที่น่าจะเข้าไปทำตลาดด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดในขณะนี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ เพราะด้วยศักยภาพของชาวอินเดียเอง มีประชากรเป็นจำนวนมาก ที่มีฐานะติดขั้นระดับเศรษฐี และเท่าที่ได้สัมผัสกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ยังพบว่า เมื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว ก็จะมีการใช้จ่ายต่อหัว/คนสูงมาก และโรงแรมที่เข้าพักก็จะพักโรงแรมหรูๆ ตั้งแต่ 4-5 ดาวขึ้นไป ซึ่งตนมองว่าเป็นประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุด
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการเข้าไปทำตลาดในประเทศอินเดีย ยังไม่มีหน่วยงานใดของรัฐ หรือภาคเอกชนเข้าไปบุกเบิกทำตลาดอย่างจริงจัง มีเพียงกลุ่มผู้ประกอบการบางรายเท่านั้นที่เข้าไปทำตลาดอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก หากมีการเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจัง ตนเชื่อว่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน
ที่สำคัญ ความแตกต่างในด้านวัฒนธรรม อาหารการกินของประเทศไทย และประเทศอินเดีย ก็ไม่ต่างกันมากนัก จึงเป็นประเทศที่ไม่น่ามองข้าง และที่สำคัญ การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย จะเดินทางมาเป็นครอบครัว ซึ่งมีความแตกต่างกันมากกับกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป
“สำหรับการทำตลาดของสมาคมร่วมกับสมาคมโรงแรม และ ททท.จะเดินทางไปทำตลาดแถบประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน ที่จะถึงนี้ เพื่อทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหน้าไฮซีซัน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะขึ้นชื่อในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ จังหวัดกระบี่ และฝั่งอันดามัน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าโลว์ฯ แต่ฝนตกก็ไม่ตกชุกตลอดทั้งวัน บางช่วงอากาศดีเหมือนกับช่วงหน้าไฮซีซันจึงเป็นข้อดี ที่จะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามา และต่อไปอาจจะเข้าไปตลาดในประเทศอินเดียด้วย”