นครศรีธรรมราช - “พลายไข่หีด” ล้ม เจ้าของสลดพบแผลถูกรุมยิงพรุนขณะตกมัน-เตรียมเก็บงาไว้เป็นที่ระลึก สัตวแพทย์คาดเลือดตกช่องอก-กระสุนถูกอวัยวะสำคัญภายใน
กรณี “พลายไข่หีด” ช้างพลายเชือกงามที่เกิดอาการตกมันอาละวาด ในพื้นที่ ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเบื้องต้นนั้นพบว่า พลายไข่หีดได้เดินข้ามภูเขามาจาก อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพื้นที่ อ.พรหมคีรี นั้น พบว่า เป็นพื้นที่เกิดจากช้างพลายไข่หีด และพลายไข่หีดได้ทำร้าย นายถาวร ราชกิจจา อายุ 45 ปี อยู่ 137 ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บขณะไปกรีดยาง
หลังจากนั้น ชาวบ้านได้ช่วยกันใช้อาวุธปืนยิงสกัดช้างพลายไข่หีดจนเตลิดเข้าป่า จนกระทั่งในช่วงเช้าได้ออกมาจากป่าอีกครั้ง และสัตวแพทย์ พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์อำเภอขนอม ในฐานะสัตวแพทย์อาสามูลนิธิเพื่อนช้างภาคใต้ ได้เข้าควบคุมอาการตกมันโดยการใช้ยาสลบ ซึ่งขณะที่เข้าควบคุมโดยใช้วิธียิงลูกดอกบรรจุยากล่อมประสาทจนสามารถควบคุมอาการตกมันไว้ได้ช้างได้สงบลงในที่สุด
แต่พบว่าช้างพลายไข่หีดอยู่ในสภาพเลือดโชก เนื่องจากช่วงกลางคืนพลายไข่หีดได้ถูกชาวบ้านยิงด้วยอาวุธปืนหลายนัด กระทั่งในช่วงเช้าก่อนที่สัตวแพทย์ พรภิรมย์ จะเข้าควบคุมสถานการณ์ พลายไข่หีดยังถูกชาวบ้านยิงซ้ำอีกหลายนัด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ก.พ.2551 ผู้สื่อข่าวรายว่าในช่วงค่ำของวานนี้หลังจากที่ยากล่อมประสาทหมดฤทธิ์ นายสุรินทร์ บ้างสกุล อายุ 57 ปี อยู่ ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าของช้างพลายไข่หีด ได้นำรถบรรทุก 6 ล้อมาบรรทุกพลายไข่หีดมุ่งหน้ากลับบ้านพักเลขที่ 160 ม.1 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำกลับไปรักษาบาดแผลที่ชาวบ้านได้ยิงด้วยอาวุธปืนหลายนัดตามจุดต่างๆ ของร่างกาย แต่ปรากฏว่า พลายไข่หีดได้ล้มลงตายเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 22 ก.พ.2551 ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากถึงการใช้อาวุธปืนของชาวบ้านจนเกินเหตุ
นายสุรินทร์ บ้างสกุล อายุ 57 ปี เจ้าของช้างพลายไข่หีด เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากที่พลายไข่หีดได้ฟื้นจากฤทธิ์ของยากล่อมประสาท ตนเองได้นำขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ จาก ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ขับกลับบ้านที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางประมาณ 100 กม. เมื่อมาถึงบ้านปรากฏว่า พลายไข่หีดเริ่มอ่อนแรง ไม่สามารถลงจากรถบรรทุกได้ ตนจึงปล่อยให้อยู่บนรถ และสังเกตเห็นว่า พลายไข่หีดได้อ่อนแรงลงเรื่อยๆ ตนเองเฝ้าอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาจนกระทั่งขาดใจตายในราวเวลา 01.00 น.
“ผมตรวจสอบบาดแผล พบว่า พลายไข่หีดถูกยิงหลายจุดมาก ซอกขาหลัง ซอกขาหน้า ซึ่งสังเกตได้ว่าเป็นปืนนัดเดียว บริเวณเครื่องอวัยวะเพศมีบาดแผลกว้างราว 3 นิ้ว บริเวณเข่าหน้าอีก 7 รู ตรงนี้เข้าใจว่าเป็นอาวุธปืนลูกซอง และที่หน้าผากอีก 1 นัด แม้กระทั่งเพดานปากอีก 1 นัด เป็นปืนนัดเดียวเช่นกัน เท่าที่พบนั้นอย่างน้อยผมเชื่อว่ามีเอชเค ลูกซองและปืนสั้น ยอมรับว่า ผมเสียใจมาก พลายไข่หีดเป็นช้างที่ผมรักมาก สาเหตุที่มันตายนั้น เพราะไม่สามารถทนบาดแผลได้และกระสุนได้ทะลุเข้าไปถูกอวัยวะสำคัญภายใน” นายสุรินทร์ กล่าว
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า เช้าที่ผ่านมา ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช แล้วว่าพลายไข่หีดได้ตาย เพราะถูกยิงจนไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้ ส่วนร่างของพลายไข่หีดนั้นตนเองจะฝังไว้ที่บ้านโดยใช้รถแบ็กโฮมาขุดดิน และยกศพของพลายไข่หีดจากรถหกล้อ มายังหลุมที่ขุดส่วนตัวเองนั้นจะชำแหละเอางาของพลายไข่หีดเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ขณะที่ นายสัตวแพทย์ พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์อำเภอขนอม ในฐานะสัตวแพทย์อาสามูลนิธิเพื่อช้าง เปิดเผยว่า เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นนั้นพบว่ากระสุนปืนได้เจาะทะลวงเข้าไปทำลายอวัยวะภายใน และน่าจะไปตุงอยู่ในช่องอกของช้าง ซึ่งนัดที่สำคัญ คือ นัดที่ถูกยิงด้วยปืนนัดเดียวเข้าซอกขาหน้า นัดนี้เป็นนัดที่ทะลุเข้าไปอาการที่ตามมา คือ เลือดตกในช่องอกปริมาณมากทำให้อาการทรุดจนถึงแก่ความตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่นายสัตวแพทย์พรภิรมย์ กำลังใช้ความพยายามในการควบคุมช้าง ชาวบ้านจำนวนมากได้พาอาวุธปืนขึ้นรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามหลังช้างจนช้างมีอาการเตลิดคลุ้มคลั่งอย่างหนัก และเมื่อช้างเข้าไปในป่ากลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นได้พาปืนลูกซองสั้นตามล่าช้างกันอย่างสนุกมือ
รวมทั้งในช่วงกลางคืนได้มีการยิงช้างหลายนัดเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต่างก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่ากลุ่มชาวบ้านบางคนได้ยิงช้างกันจนเกินกว่าเหตุ ทำให้ผู้ที่นิยมในการอนุรักษ์ช้างและสัตว์ป่าเศร้าสลดเป็นอย่างมาก