ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจตะกั่วป่า ร่วมกับตำรวจคุระบุรี ไล่ล่ากลุ่มมือปืนที่ก่อคดียิงคนเสียชีวิตแล้วหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ร่วมกับตำรวจ สภ.คุระบุรี จังหวัดพังงา และตำรวจ ตชด.ที่ 425 ตะกั่วป่า ยังคงนำกำลังตำรวจร่วมกว่า 50 นาย ปิดล้อมป่าบนเขาบางอี หมู่ที่ 4 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า หลังจากคนร้ายที่เป็นมือปืน 4 คน ใช้อาวุธปืนยิง นายวัฒนา กำมะหยี่ อายุ 35 ปี เสียชีวิตคาที่ และ นางวนิดา ลิ่มสมบูรณ์ อายุ 49 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนเข้าหมู่บ้านทุ่งละออง หมู่ที่ 4 ต.บางวัน อ.คุระบุรี
หลังก่อเหตุมือปืนทั้งหมดได้หลบหนีขึ้นรถยนต์ อีซูซุ 4 ประตู สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีมาตามส้นทาง อ.ตะกั่วป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คุระบุรี ได้ติดตามล่ารถคนร้าย และได้วิทยุขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ช่วยตั้งด่านสกัดเส้นทางหลบหนี
จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า สามารถสกัดรถคนร้ายได้ เพียง 1 คน คือ นายวิทิน พิทักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 362/1 หมู่ที่2 ต.ฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยรถคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนคนร้ายที่นั่งมาในรถ 3 คน ได้กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าในท้องที่ สภ.ตะกั่วป่า ซึ่ง พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.คุระบุรี สั่งกำลังปิดล้อมคนร้ายที่เหลืออยู่ ทราบชื่อคือ นายสิทธิศักดิ์ จันทร์ดำ อายุ 27 ปี หมู่ที่ 3 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นมือปืนที่ลั่นไกสังหารเหยื่อ ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ตำรวจ ตชด.425 และชาวบ้านกว่า 50 คน เดินตามแนวเขาที่เป็นสวนยางพาราเพื่อตามหาคนร้ายที่กำลังหลบหนีอยู่ คาดว่าคนร้ายมีอาวุธพร้อมมือติดไปด้วย
ส่วน นางวนิดา ลิ่มสมบูรณ์ ญาติได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า พบว่าถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ซ้ายทะลุด้านหลัง แพทย์ช่วยชีวิต โดย นางวนิดา สามารถให้ปากคำกับตำรวจได้ โดยเล่าว่า คนร้ายได้ขับรถยนต์มาจอด หนึ่งในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่น้องชาย จนล้มคว่ำ
หลังจากนั้น ได้หันมายิงใส่ตนเข้าที่หัวไหล่ ตนจึงวิ่งหลบหนีกระสุน หลังก่อเหตุคนร้ายทั้งหมดได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไปทางตะกั่วป่า ตนได้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจท้องที่ให้สกัดจับคนร้าย
นางวนิดา กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายยิงน้องชายและตน ส่วนทางด้านชุดสืบสวนของตำรวจเชื่อว่าสาเหตุจะเป็นการฆ่าล้างแค้นและเรื่องส่วนตัว ซึ่งมือปืนที่จับมาได้ยังไม่ยอมให้การว่าใครเป็นผู้จ้างวาน อ้างว่าเพื่อนชวนมาเที่ยว และไม่นึกว่ามาก่อเหตุยิงคน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ร่วมกับตำรวจ สภ.คุระบุรี จังหวัดพังงา และตำรวจ ตชด.ที่ 425 ตะกั่วป่า ยังคงนำกำลังตำรวจร่วมกว่า 50 นาย ปิดล้อมป่าบนเขาบางอี หมู่ที่ 4 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า หลังจากคนร้ายที่เป็นมือปืน 4 คน ใช้อาวุธปืนยิง นายวัฒนา กำมะหยี่ อายุ 35 ปี เสียชีวิตคาที่ และ นางวนิดา ลิ่มสมบูรณ์ อายุ 49 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนเข้าหมู่บ้านทุ่งละออง หมู่ที่ 4 ต.บางวัน อ.คุระบุรี
หลังก่อเหตุมือปืนทั้งหมดได้หลบหนีขึ้นรถยนต์ อีซูซุ 4 ประตู สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีมาตามส้นทาง อ.ตะกั่วป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คุระบุรี ได้ติดตามล่ารถคนร้าย และได้วิทยุขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ช่วยตั้งด่านสกัดเส้นทางหลบหนี
จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า สามารถสกัดรถคนร้ายได้ เพียง 1 คน คือ นายวิทิน พิทักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 362/1 หมู่ที่2 ต.ฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยรถคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนคนร้ายที่นั่งมาในรถ 3 คน ได้กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าในท้องที่ สภ.ตะกั่วป่า ซึ่ง พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.คุระบุรี สั่งกำลังปิดล้อมคนร้ายที่เหลืออยู่ ทราบชื่อคือ นายสิทธิศักดิ์ จันทร์ดำ อายุ 27 ปี หมู่ที่ 3 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นมือปืนที่ลั่นไกสังหารเหยื่อ ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ตำรวจ ตชด.425 และชาวบ้านกว่า 50 คน เดินตามแนวเขาที่เป็นสวนยางพาราเพื่อตามหาคนร้ายที่กำลังหลบหนีอยู่ คาดว่าคนร้ายมีอาวุธพร้อมมือติดไปด้วย
ส่วน นางวนิดา ลิ่มสมบูรณ์ ญาติได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า พบว่าถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ซ้ายทะลุด้านหลัง แพทย์ช่วยชีวิต โดย นางวนิดา สามารถให้ปากคำกับตำรวจได้ โดยเล่าว่า คนร้ายได้ขับรถยนต์มาจอด หนึ่งในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่น้องชาย จนล้มคว่ำ
หลังจากนั้น ได้หันมายิงใส่ตนเข้าที่หัวไหล่ ตนจึงวิ่งหลบหนีกระสุน หลังก่อเหตุคนร้ายทั้งหมดได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไปทางตะกั่วป่า ตนได้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจท้องที่ให้สกัดจับคนร้าย
นางวนิดา กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายยิงน้องชายและตน ส่วนทางด้านชุดสืบสวนของตำรวจเชื่อว่าสาเหตุจะเป็นการฆ่าล้างแค้นและเรื่องส่วนตัว ซึ่งมือปืนที่จับมาได้ยังไม่ยอมให้การว่าใครเป็นผู้จ้างวาน อ้างว่าเพื่อนชวนมาเที่ยว และไม่นึกว่ามาก่อเหตุยิงคน
