ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตเร่งแก้ไขปัญหาทางการประมง เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องหารือแต่ไม่ได้ข้อยุติเรื่องการทำประมงเขต 3,000 เมตร คาดใช้เวลาตัดสินใจอีก 6 เดือน
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาทางการประมงจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการขยายแนวเขตห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงอวนรุนและอวนลากที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมง จาก 3,000 เมตร เป็น 5,400 เมตร โดยมีหน่วยงานราชการ และกลุ่มาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์เข้าร่วม
นายสมิทธิ์ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาทางการประมงของจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2550 ซึ่งมีมติให้คงพื้นที่เขตห้ามใช้เครื่องมืออวนรุน อวนลาก ที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมง 3,000 เมตร และทางกรมประมงได้มีหนังสือเพื่อขอคำยืนยันจากสมัชชาคนจนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 10 คน ว่าจะยังคงมติเดิมหรือไม่ โดยที่ประชุมได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในเรื่องของข้อมูลผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากยังคงไว้ หรือการขยายแนวเขตเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่สามารถหาข้อยุติได้ ที่ประชุมจึงได้มีมติร่วมกันว่าให้แต่ละภาคส่วนไปจัดทำข้อมูลของตัวเองมา เช่น ชาวประมงพื้นบ้านกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ให้ไปทำการสำรวจจำนวนเรือและชาวบ้าน ที่ยังคงประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอันดามันกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 4 รวบรวมผลการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิด สมาคมประมงภูเก็ต รวบรวมจำนวนผู้ประกอบการเรืออวนรุนอวนลาก ที่มีการอนุญาตอย่างถูกต้องและไม่มีการขอนุญาต
ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลฝั่งอันดามัน และสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน รวบรวมข้อมูลเกี่ยวทรัพยากรในเขต 3,000 เมตร และ 5,400 เมตร ว่าเป็นอย่างไร เป็นต้น
โดยใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลมานำเสนอภายในเวลา 1 เดือน และใช้เวลาในการตัดสินใจภายใน 6 เดือน
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาทางการประมงจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการขยายแนวเขตห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงอวนรุนและอวนลากที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมง จาก 3,000 เมตร เป็น 5,400 เมตร โดยมีหน่วยงานราชการ และกลุ่มาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์เข้าร่วม
นายสมิทธิ์ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาทางการประมงของจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2550 ซึ่งมีมติให้คงพื้นที่เขตห้ามใช้เครื่องมืออวนรุน อวนลาก ที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมง 3,000 เมตร และทางกรมประมงได้มีหนังสือเพื่อขอคำยืนยันจากสมัชชาคนจนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 10 คน ว่าจะยังคงมติเดิมหรือไม่ โดยที่ประชุมได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในเรื่องของข้อมูลผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากยังคงไว้ หรือการขยายแนวเขตเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่สามารถหาข้อยุติได้ ที่ประชุมจึงได้มีมติร่วมกันว่าให้แต่ละภาคส่วนไปจัดทำข้อมูลของตัวเองมา เช่น ชาวประมงพื้นบ้านกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ให้ไปทำการสำรวจจำนวนเรือและชาวบ้าน ที่ยังคงประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอันดามันกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 4 รวบรวมผลการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิด สมาคมประมงภูเก็ต รวบรวมจำนวนผู้ประกอบการเรืออวนรุนอวนลาก ที่มีการอนุญาตอย่างถูกต้องและไม่มีการขอนุญาต
ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลฝั่งอันดามัน และสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน รวบรวมข้อมูลเกี่ยวทรัพยากรในเขต 3,000 เมตร และ 5,400 เมตร ว่าเป็นอย่างไร เป็นต้น
โดยใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลมานำเสนอภายในเวลา 1 เดือน และใช้เวลาในการตัดสินใจภายใน 6 เดือน
