ปัตตานี - ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี วอนรัฐบาลใหม่เร่งลงทุนเมกะโปรเจกต์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจใต้ ระบุรัฐบาลใหม่ไม่ควรยุบ ศอ.บต.เหมือนที่รัฐบาลทักษิณเคยทำ
นายศิริชัย ปิติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี เปิดเผยถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ว่า อยากให้รัฐบาลใหม่คงนโยบายในเรื่องมาตรการความช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการสานต่อในเรื่องนโยบายเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจต่อไป เพราะถือเป็นเรื่องที่ช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ สามารถดำรงอยู่ได้ในสถานการณ์ความไม่สงบ
รัฐบาลใหม่อาจจะมีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดในพื้นที่ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทอดทิ้งหรือไม่เหลียวแลคนภาคใต้ เพราะการลงทุนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้นมีความละเอียดอ่อน ภาคเอกชนจะนำการลงทุนคงเป็นไปได้ยาก
ดังนั้น ภาครัฐต้องเป็นผู้ถือธงนำในการเข้ามาลงทุนแทนภาคเอกชน เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีนักธุรกิจย้ายออกจากพื้นที่ไปเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการลงทุนเพิ่มเติมก็อาจจะสายเกินไปหากไม่มีนักลงทุนเหลืออยู่ในพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เพิ่มมาตรการพิเศษส่งเสริมการลงทุนในชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะมีอุปสรรคจากสถานการณ์ในพื้นที่
ต่อข้อถามที่ว่า ก่อนหน้านี้ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย คนในพื้นที่ค่อนข้างผิดหวังต่อการทำงานแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ สำหรับรัฐบาลใหม่ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ไทยรักไทยเดิมภาคเอกชนชายแดนภาคใต้มีความคิดเห็นอย่างไร
ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลไทยรักไทยที่ผ่านมา ตนไม่อยากใช้คำว่าผิดหวัง เพราะในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้นั้น ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาพอสมควร เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้คนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้มีความกังวลในเรื่องที่ว่า อาจจะไม่ได้รับการดูแลเพราะคนภาคใต้ไม่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคไทยรักไทย ขณะที่หัวหน้าพรรคขณะนั้น คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในลักษณะที่ว่าจะพัฒนาช่วยเหลือในจังหวัดหรือพื้นที่ ที่ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคไทยรักไทย
“คนในพื้นที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลในเรื่องที่ว่า ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ เคยหลุดคำพูดมาคำหนึ่ง คล้ายๆว่าจังหวัดไหนพื้นที่ไหนเลือกเขา เขาก็จะไปพัฒนาจังหวัดนั้น คนภาคใต้ก็เลยรู้สึกเป็นกังวลว่าคนภาคใต้จะถูกทอดทิ้งหรือเปล่า” นายศิริชัย กล่าวและว่า
การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้นั้น รัฐบาลใหม่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องดูแลแก้ปัญหาให้ดี เพราะผลกระทบจากปัญหาชายแดนภาคใต้ไม่ได้อยู่แค่เฉพาะในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ แต่ยังส่งผลกระทบขยายไปในวงกว้าง ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในหลายพื้นที่ สิ่งที่ภาคเอกชนชายแดนภาคใต้ต้องการเห็นสิ่งแรกที่รัฐบาลทำ คือการแก้ปัญหาความไม่สงบ แต่ก็เชื่อว่าความไม่สงบคงไม่ยุติในทันทีหลังรัฐบาลใหม่เข้ามา
ดังนั้น แนวทางในการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชน ภาคเศรษฐกิจในพื้นที่ ภาคเอกชนจึงอยากเสนอให้รัฐบาลดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่เมกะโปรเจกต์ในพื้นที่ เพื่อเป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ในพื้นที่ เช่นโครงการอาหารฮาลาลต่างๆ โดยใช้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นศูนย์กลางซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลที่ จ.ปัตตานี รวมถึงโครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติ โครงการปิโตรเคมีต่างๆ โครงการพลังงานลม
ก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ก็มีความพยายามที่จะพัฒนาภาคใต้ชายฝั่งทะเลตะวันออก นับตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงมาถึง จ.นราธิวาส ซึ่งไม่ใช่ทำเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่ดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งภาคตามความเหมาะสมของแต่ละจังหวัด อันจะเป็นการพัฒนาได้อย่างดียั่งยืน และยังช่วยไขความเข้าใจของคนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่มองว่าถูกทอดทิ้งด้านการพัฒนามานาน
เมื่อถามถึงความคาดหวัง การทำงานแก้ปัญหาของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับรัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างไร และจะถูกยุบ ศอ.บต.เหมือนสมัยรัฐบาลทักษิณหรือไม่
นายศิริชัย กล่าวว่า ณ เวลานี้ตนเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากยุบ ศอ.บต. เพราะต้องใช้ ศอ.บต.เป็นช่องทางในการเชื่อมต่อกระบวนการคิดการพัฒนาการแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ต่อ