โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ระบุกระแสข่าวแกนนำพรรคบินไปฮ่องกง เพื่อเจรจาต่อรองโควตารัฐมนตรีกับ “แม้ว” เป็นเพียงข่าวลือ ขณะที่ “หมอแว” ทวงสัจจะพลังประชาชน ชี้ลดเก้าอี้รัฐมนตรีพรรคร่วมไม่เหมาะสม
นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงการลงมติเรื่องนายกฯ ในวันที่ 28 ม.ค.ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ได้มีคำสั่งกำชับไปยัง ส.ส.ของพรรคทุกคนว่า ในวันดังกล่าวห้ามลาห้ามสาย ห้ามขาด หรือเดินทางเข้าร่วมประชุมสาย เพราะวาระการประชุมนี้เป็นวาระการประชุมที่มีความสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลและทุกพรรคจะต้องดำเนินการตามมติของพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นตนจึงมีความมั่นใจว่าการลงมติในวันดังกล่าวพรรคเพื่อแผ่นดินจะไม่มีปัญหาเสียงแตกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในพรรคมีคำสั่งกำชับอย่างเด็ดขาดว่า ส.ส.ของพรรคทุกคนจะต้องทำตามมติของวิปรัฐบาลชั่วคราวอย่างเคร่งครัดอีกทั้งยังมอบหมายให้ตัวแทนวิปของพรรคเราทั้ง 3 คน ให้นำผลการประชุมวิปรัฐบาลที่จะออกมาก่อนการประชุมให้นำมาแจ้งกับ ส.ส.ของพรรคให้ได้รับทราบให้ทั่งถึงกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาเสียงแตกในการเลือกประธานสภาที่ผ่านมาทางพรรคไม่ได้นิ่งเฉยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ได้พยามเช็คข่าวในทุกๆทางโดยเฉพาะได้สอบถามไปยังส.ส.ของพรรคทุกคน ซึ่งทุกคนก็ต่างยืนยันว่าได้ทำตามมติของพรรคร่วมรัฐบาล” โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดินกล่าว
โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกระแสข่าวของบรรดาแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินเดินทางไปยังฮ่องกงเพื่อเจรจาการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าข่าวที่ออกมาตนเห็นว่า อาจเป็นข่าวลือหรือข่าวปล่อยเพราะในช่วงที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคยืนยันว่าไม่ได้เดินทางไปไหนอีกทั้งการมอบหมายเรื่องของการเจรจาเกี่ยวกับการแบ่งหน้าที่ในดูแลกระทรวงต่างๆ ให้กับพรรคร่วมรัฐบาลทางพรรคได้มอบอำนาจให้กับหัวหน้าพรรคให้เป็นผู้เจรจาแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งตนทราบมาว่าในขณะนี้การเจรจาในเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า คิดว่าทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจนหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกนายกฯ ในวันจันทร์ที่จะถึงไปแล้ว ดังนั้น อำนาจสิทธิ์ขาดทั้งหมดควรจะรอให้หัวหน้าพรรคได้มีการเจรจาตกลงเสร็จสิ้นเสียก่อนซึ่งหัวหน้าพรรคได้ยืนยันแล้วว่าหากมีความชัดเจนจะมีการเปิดแถลงให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป
นายวชิระมณฑ์ ยังกล่าวถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ซึ่งเป็นอีก 1 เงื่อนไขที่พรรคเพื่อแผ่นดินเสนอเพิ่มขึ้นต่อพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรคทั้งหมดได้ปรึกษาหารือในที่ประชุมที่ผ่านมา โดยได้มีมติว่าให้มีการศึกษาข้อมูลปัญหาชายแดนใต้ที่เกิดขึ้น แล้วนำเสนอต่อสภาฯ โดยอาจจะยื่นเป็นญัตติ เพื่อให้ที่ประชุมสภาฯ ทำการพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าพรรคเพื่อแผ่นดินอาจเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาภาคใต้ขึ้นมา โดยเฉพาะเพราะที่ผ่านมากรรมาธิการเข้ามาแก้ไขดูแลปัญหาเหล่านี้โดยตรงรวมทั้งอาจจะเสนอให้ ออกเป็นกฎหมาย หรือเป็นวาระแห่งชาติ
ด้าน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส ในฐานะวิปรัฐบาลชั่วคราว กล่าวว่า การเลือกโหวตนายกฯ ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ จากการประชุมพรรคและการประชุมร่วมกับวิปพรรคร่วมรัฐบาลได้มีมติโหวตเลือกตามรายชื่อที่พรรคพลังประชาชนเสนอยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยดังที่เคยเกิดขึ้นกับการเลือกประธานสภาแน่นอน ส่วนจะตั้งคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาภาคใต้ขึ้นมานั้นคงจะต้องรอให้พิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาเสียก่อนตรงนั้นถึงมาพูดคุยกันอย่างไร กลุ่มสัจานุภาพยังคงยืนยันจุดยืนเดิม คือ การแก้ไขปัญหาภาคใต้ ให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยต้องมีคนในพื้นที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการเข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายบริหาร
“การทำงานในฝ่ายบริหารในที่นี้จะเป็นกระทรวงไหนก็ได้ เพราะทุกกระทรวงสามารถแก้ไขปัญหาใต้ได้เหมือนกันโดยทางกลุ่มได้วางตัวบุคคลในเบื้องต้นแล้วที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ ตามที่ทางกลุ่มได้รับปากประชาชนไว้ซึ่งคนที่จะรับตำแหน่งไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.แต่จะเน้นคนในพื้นที่เป็นสำคัญอีกทั้งหัวหน้าพรรคได้รับปากกับทางกลุ่มในเรื่องนี้ไว้แล้วก่อนที่ทางกลุ่มเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อแผ่นดินแต่ถ้าไม่ได้ตามพูดคุย หัวหน้าพรรค รวมถึงแกนนำพรรคจะต้องตอบคำถามต่อประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากทุกคะแนนเสียงที่ทางกลุ่มได้มาล้วนแต่ต้องการผลักดันให้คนในพื้นที่เข้าทำงานด้านการบริหารแทบทั้งสิ้น” นพ.แวมาฮาดีกล่าว
ต่อข้อถามถึงการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ที่ยังไม่ลงตัวขณะนี้จะมีผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ นพ.แวมาฮาดี กล่าวว่า ในส่วนของพรรคคงไม่กระทบให้เป็นหน้าที่ของของพรรคพลังประชาชนจะจัดสรรมาแต่ถ้าไปเพิ่มสัดส่วนจำนวน ส.ส.ต่อเก้าอี้รัฐมนตรีให้มากขึ้น เช่น 1 ต่อ 9 ก็จะไปลดตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรคอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ เห็นว่าการมีสัจจะที่เคยรับปากอะไรไว้เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นสิ่งที่มีเกียรติซึ่งทุกคนต้องมี
