ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ไทย-มาเลเซีย ร่วมถกปัญหาและการพัฒนาชายแดนด้าน จ.สงขลา และ สตูล ซึ่งติดกับรัฐเปอร์ลิส โดยจะมีการร่วมมือกันพัฒนาในหลายๆ ด้าน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ห้องประชุมหาดใหญ่ โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการประชุมกรอบความร่วมมือชายแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย โดยผู้เข้าร่วมหารือของทั้งสองประเทศประกอบด้วย นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา นายชูศักดิ์ มณีชยางกูร รองผู้ว่าราชการ จ.สตูล และดาโต๊ะซือรี ชาฮีดัน บินกาเซ็ม มุขมนตรีรัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายของของ จ.สงขลา สตูล และรัฐเปอร์ลิส
ทั้งนี้ มีกรอบการหารือในเรื่องการพัฒนาและแก้ปัญหาชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในเขต จ.สงขลา จ.สตูล กับรัฐเปอร์ลิส ของมาเลเซีย ทั้งเรื่องของการลักลอบค้าสินค้าหนีภาษีศุลกากร ปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง การพัฒนาการท่องเที่ยว การสร้างศูนย์ราชการท่องเที่ยว การสร้างศูนย์ราชการชายแดน ปัญหาเรื่องยาเสพติดและปัญหาด้านความมั่นคง
โดยเฉพาะในส่วนของด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล กับด่านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมาเลเซียมีความกังวลมากที่สุด เนื่องจากในราวเดือนกุมภาพันธ์ ์นี้มาเลเซียจะมีความเข้มงวดในการเข้าประเทศมากขึ้น โดยให้ใช้ใบเบิกทางผ่านแดน หรือบอร์เดอร์พาส หรือไม่ก็หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต เท่านั้น เพราะเกรงว่าจะกระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ จึงต้องการทราบท่าทีของไทยเพื่อให้เกิดการประสานงานและการแก้ปัญหาที่ชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การการพัฒนาร่วมกันในระดับชายแดนของทั้งสองประเทศ
นายชูศักดิ์ มณีชยางกูร รองผู้ว่าราชการ จ.สตูล เปิดเผยว่า มีหลายเรื่องที่ทางการของรัฐเปอร์ลิส ซึ่งเป็นรัฐที่มีเขตแดนติดต่อกับ จ.สตูล มีความกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้มาตรการที่เข้มงวดการผ่านเข้าออกตามแนวพรมแดน ซึ่งมาเลเซียจะเริ่มดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยผู้ที่ข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย จะต้องใช้ใบเบิกทางผ่านแดน (บอร์เดอร์พาส) หรือใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เท่านั้น
จึงต้องการทราบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยมีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะมาเลเซียเกรงว่าภายใต้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าขาย และการท่องเที่ยวชายแดน เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะน้อยลง เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นของมาเลเซีย
จากเดิมการข้ามแดนระหว่างด่านวังประจัน ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล กับด่านวังเกลียน ในรัฐเปอร์ลิสของมาเลเซีย ในกรณีที่ข้ามจากไทยเข้าไปซื้อของในฝั่งมาเลเซีย จะใช้ไอซีหรือบัตรประชาชนกรอกข้อมูลในขั้นตอนของ ตม.ไทย แล้วเข้าไปได้เลย หรือจะใช้ใบเบิกทางผ่านแดนหรือพาสปอร์ตก็ได้ ซึ่งง่ายต่อการเข้าออก
“ส่วนเรื่องที่ทางการมาเลเซีย ต้องการความร่วมมือจากไทยมากที่สุดในขณะนี้ คือ การแก้ปัญหาลักลอบขนสินค้าหนีภาษีโดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเชื่อเพลิง เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันปาล์มของมาเลเซียอยู่ในภาวะขาดแคลนถึงขั้นวิกฤต จึงต้องการให้ไทยร่วมมือในการป้องกันมากขึ้น”
รอง ผวจ.สตูล กล่าวว่า มาเลเซียเองพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับไทยในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและยาเสพติด ที่ผ่านมาการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับชายแดนของทั้งสองฝ่ายอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งหลังจากที่ได้มีการหารือกันในครั้งนี้ภายใต้กรอบการพัฒนาและการแก้ปัญหาร่วมกัน เชื่อว่า จะทำให้บรรยากาศการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซียดีขึ้น