นครศรีธรรมราช - ผู้ปกครองเมืองคอนสุดทน วอนเจ้าหน้าที่เร่งสางพฤติกรรมโจ๋ยึดห้องสมุดประชาชนพลอดรัก พบถุงยางอนามัยเกลื่อน-คราบสารคัดหลั่งเปรอะมุมหนังสือ ด้านสารวัตรนักเรียน พื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 ยันออกตรวจสอบ แต่ไม่อาจทำได้ครอบคลุม วอนผู้ปกครองช่วยสอดส่องด้วย
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ทำการชมรมนักข่าว จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ปกครองนักเรียนจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยตีแผ่พฤติกรรมนอกรีตของเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะนักเรียนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เกี่ยวกับพฤติกรรมเรื่องชู้สาว ที่นักเรียนวัยรุ่นชาย-หญิง กล้าหาญมีเพศสัมพันธ์กันตามสถานที่สาธารณะ โดยไม่เกรงกลัวหรืออับอายผู้คนที่พบเห็น และขอให้ช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังด้วย
นายวิทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ครูสถานศึกษาเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนได้หันมาประกอบอาชีพค้าขายอยู่บริเวณสนามหน้าเมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง และพบว่า บริเวณทิศตะวันตกของสนามหน้าเมือง ที่ตั้งของสนามเทนนิส ห้องสมุดประชาชน จ.นครศรีธรรมราช และสำนักงานการท่องเที่ยวภาคใต้ เขต 2 นครศรีธรรมราชนั้น ระหว่างซอกตึกห้องสมุดกับสนามเทนนิส จะเป็นที่ว่างกว้างประมาณ 2-3 เมตร ยาวไปจรดถนนท่าช้าง ซึ่งเป็นจุดที่ลับตาคน
จุดนี้จะเป็นจุดที่วัยรุ่น นักเรียนอายุระหว่าง 13-15 ปี ซึ่งน่าจะเป็นนักเรียนในระดับ ม.1-3 ทั้งชาย และหญิง ที่เป็นแฟนกันนัดพบพลอดรักกันอย่างดูดดื่มทั้ง ๆ ที่อยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียน และมักจะจบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์ ที่ผ่านมาตนและเพื่อน ๆ รวมทั้งผู้ปกครองเคยไปพบเห็นตำตา ขณะที่วัยรุ่นกำลังมีเพศสัมพันธ์กันอย่างไม่อายสายตา ก่อนที่จะผู้ที่พบเห็นต่างต้องเดินหนีกันไปเอง
ด้าน นายโชค (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องดูแลในสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นน่าเป็นห่วงมาก การมีพฤติกรรมชู้สาว และการมีเพศสำคัญกันนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ มากสำหรับเด็กในสมัยนี้
“ภายในห้องสมุด โดยเฉพาะชั้น 2 นักเรียนวัยรุ่นชาย-หญิง จะนัดมาพบกัน และจับจองพื้นที่ในซอกมุมที่ค่อนข้างลับหูลับตาคน นั่งคลอเคลียร์ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กันอย่างไม่เกรงใจคนที่มาใช้ห้องสมุด และไม่สนใจว่าใครจะพบเห็น
“ซึ่งที่ผ่านมามีคนอื่นๆ ที่เข้าไปใช้บริการห้องสมุด และผู้ปกครองไปพบเห็นการกระทำมาแล้วหลายครั้ง จนเป็นที่เอือมระอา นอกจากนักเรียนแล้วยังมีสามเณรรูปหนึ่งกับนักเรียนหญิงนั่งในหลืบเก็บหนังสือพลอดรักกัน สิ่งที่หลงเหลือทุกคนสามารถเข้าไปดูได้เลยจะเห็นว่า ตามซอกเหลือบในมุม มสธ.ชั้น 2 ของห้องสมุดพบว่า ที่ผนังปูนมีคราบเหนียวๆ ร่องรอยของสารคัดหลั่งของกลุ่มเด็กเหล่านั้น โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ผนังปูนในจุดอื่นๆ กลับสะอาดเรียบร้อยไม่มีคราบน้ำปริศนาแต่อย่างใด” ผู้เกี่ยวข้องรายนี้ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เจ้าหน้าที่พยายามไปตักเตือนหลายครั้งแล้ว ก็รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถที่จะเดินตรวจสอบทั่วบริเวณได้อย่างทั่วถึง และตลอดเวลา และเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดพื้นที่ห้องสมุดชั้น 2 ใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่มุม มสธ.โดยพยายามจัดวางชั้น หรือโต๊ะ และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ให้โปร่งสามารถมองทะลุเห็นกันง่ายมากขึ้น ไม่ให้เป็นซอกหลืบ หรือบดบังสายตา ทำให้วัยรุ่นหามุมพลอดรัก และมีเพศสัมพันธ์กันยากขึ้น สำหรับช่วงเวลาที่วัยรุ่นมักจะนัดพบกันในห้องสมุดจะอยู่ระหว่างเวลา 14.00 น.จนถึงช่วงปิดห้องสมุดเวลา 19.00 น.
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง มีอาชีพค้าแผงลอยใกล้กับห้องสมุด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในซอกตึกระหว่างห้องสมุดกับสนามเทนนิส กลายเป็นสถานที่ขายบริการทางเพศของเด็กผู้หญิงจรจัด 4 คน อายุประมาณ 13-14 ปี ซึ่งทั้งหมดจะมาวนเวียนอยู่บริเวณห้องสมุด และบางคืนจะหาที่หลับนอนในซอกเหลือบตึกของห้องสมุด หรือในศาลาดอกเห็ดหน้าห้องสมุด
เด็กทั้ง 4 คน จะขายบริการทางเพศเพียงครั้งละ 20-30 บาทเท่านั้น จนเป็นที่รู้ ๆ กันของคนทั่วไป และตั้งฉายาเด็กทั้ง 4 คน ว่า “4 ผี 30 บาท” ในปัจจุบันเด็กผู้หญิงทั้ง 4 คน จะย้ายไปยึดทำเลแถวตึกร้างในซอยเจ้าพระยา ข้างอาคารที่การเทศบาลนครนครศรีธรรมราช แต่ยังไปๆ มาๆ ที่ห้องสมุดอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแลแก้ไขปัญหาเด็ก และเยาวชน ทั้ง 2 กรณีนี้อย่างจริงจังโดยด่วน นอกจากนี้พื้นที่ว่างระหว่างหองสมุดประชาชนกับสนามเทนนิส ยังพบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วรวมทั้งห่อบรรจุถุงยางอนามัยยี่ห้อต่างๆ ตก อยู่จำนวนมาก
ด้าน นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้างานสารวัตรนักเรียน เขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เปิดเผยว่า จุดดังกล่าวนั้นเป็นปัญหาที่หนักใจอยู่เช่นกัน แต่ในช่วงค่ำบ่อยครั้งที่สารวัตรนักเรียนเข้าไปตรวจสอบ และไล่ตะเพิดไป แต่ถ้าพบแบบกำลังพลอดรักกันอย่างเกินพอดีจะเข้าไปจัดการตามวินัยของนักเรียน
โดยจะส่งไปยังสถาบันการศึกษาต้นสังกัด แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นที่ไม่อยู่ในสถาบันการศึกษาก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะเราไม่มีอำนาจ ส่วนซอกมุมอื่นๆ ของห้องสมุดนั้น จะต้องเป็นอำนาจของเจ้าของสถานที่ในการจัดมุมที่วัยรุ่นไม่สามารถเข้าไปทำพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ได้