ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนร้ายลงมือใช้ไม้ตีคู่บ่าวสาว เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ริมชายหาดแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พร้อมชิงเงินสินสอดที่เพิ่งแต่งงานไปด้วย
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 07.30 น.ตำรวจแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพ บริเวณริมชายหาดแหลมฉบัง หมู่ 5 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ใกล้ร้านอาหารเจ๊จูน หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง
ประกอบด้วย พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ สร้อยศรี ผกก.สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.รัฏฐ ประทุมแก้ว รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.กฤษฏิ์ ศิริประเสริฐโชค รอง ผกก.(ปป.) และ คณะแพทย์ผู้ทำการชันสูตร จากโรงพยาบาลอ่าวอุดม ที่เกิดเหตุพบศพแรกเป็นชาย สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อ นายเสกสรร ทองเพชร อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่ เลขที่ 52/1 ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย เป็นพนักงานอู่ต่อเรืออยู่ที่บริษัท CUEL สภาพศพถูกตีด้วยของแข็ง เข้าที่บริเวณขมับด้านขวาอย่างแรง จนศีรษะแตก มันสมองไหล
ใกล้กันพบศพเป็นหญิงสวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงขายาวสีดำ ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อ น.ส.บุญช่วย แจ้งไธสงค์ อายุ 29 ปี ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สภาพศพนอนคว่ำหน้า ที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย ถูกตีด้วยของแข็งเช่นกันและที่ข้อมือซ้ายพบสร้อยข้อมือทองรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาทสวมใส่อยู่ และที่ลำคอมีสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 1 เส้น โดยคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินส่วนนี้
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบขวดเหล้า 1 แบน ดื่มไปแล้วประมาณครึ่งขวด ตกอยู่ข้างตัวผู้ตาย พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีบรอนซ์ ทะเบียน คตพ -973 ชลบุรี ของผู้ตายจอดอยู่ และพบท่อนไม้ทูตมรณะตกอยู่ ที่ปลายท่อนไม้ มีตะปูติดอยู่ด้วย มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด
จากการสอบถามชาวบ้านบริเวณที่เกิดเหตุ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.00 น.ได้มีชาวบ้านไปเดินเล่นที่ชายหาดและพบผู้เสียชีวิตทั้งสองคนนอนอยู่ ครั้งแรกไม่ได้สังเกต จึงนึกว่าหนุ่มสาวมานอนพลอดรักกัน จึงไม่ได้มีใครสนใจและไม่ได้เดินเข้าไปดูใกล้ๆ จนกระทั่งช่วงสายๆ 07.00 น.ได้มีเด็กนักเรียนพากันเดินไปเล่นริมชายหาดและได้พบคราบเลือดเต็มชายหาด และพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน จึงได้วิ่งไปแจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบ และแจ้งตำรวจดังกล่าว
เวลาต่อมาญาติๆ และเพื่อนๆ ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และแสดงความตกใจและร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมทั้งกล่าวว่า เมื่อคืนก่อนเกิดเรื่อง ทั้งคู่ได้จัดงานแต่งงานกันที่ร้านอาหารเจ๊จูน ชายหาดแหลมฉบัง ใกล้ๆ กับจุดที่พบศพ มีแขกมาร่วมงานจำนวนมาก หลังงานเลิก แขกได้แยกย้ายกันกลับหมดแล้ว แต่ผู้ตายทั้งสองคนได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน โดยหญิงสาวผู้ตายไม่เคยเห็นแสงสีของท่าเรือแหลมฉบังในยามค่ำคืน และทราบว่าสวยมากจึงชวน นายเสกสรร เอาเสื่อมาปูนอนเล่นที่บริเวณชายหาด เพื่อดูแสงไฟดังกล่าว
โดยได้สะพายกระเป๋าใบใหญ่ที่บรรจุเงินทองสินสอดที่ฝ่ายชายให้มา รวมทั้งเงินซองจากผู้ที่มาช่วยงานติดตัวไปด้วย จนกระทั่งมาได้รับแจ้งในตอนเช้าของวันใหม่ว่าทั้งสองคนกลายเป็นศพถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมอยู่ที่ริมชายหาดแหลมฉบัง จึงได้รีบมาดู พบว่าทรัพย์สินสร้อยทองข้อมือ สร้อยทองที่คอ และทรัพย์สินภายในตัวยังอยู่ครบ ส่วนกระเป๋าใบใหญ่ที่บรรจุเงินทองสินสอด และเงินซองจากผู้ที่มาช่วยงานได้หายไป
ด้าน พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ สร้อยศรี ผกก.สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี กล่าวว่า ฆาตกรรายนี้โหดร้ายมาก และเชื่อว่าจะต้องเป็นบุคคลในละแวกใกล้เคียง ที่รู้เห็นพฤติกรรมของคนทั้ง 2 มาโดยตลอด ตั้งแต่ในช่วงที่จัดงานแต่ง และในช่วงที่ทั้งสองคนแอบมานั่งชมความงามของท่าเรือแหลมฉบังกันสองต่อสอง เพราะอาวุธที่ใช้ก่อเหตุคาดว่าหยิบหามาจากแถวๆ ที่เกิดเหตุ กระหน่ำตีฝ่ายชายเป็นคนแรกที่ศีรษะเพียงครั้งเดียว เท่านั้น ก่อนที่จะมาตีฝ่ายหญิงอีก 1 ครั้ง ซึ่งฝ่ายหญิงเองกำลังนอนคว่ำหน้า หรือไม่ก็อาจจะหลับอยู่ สภาพศพจึงอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และถูกจุดสำคัญทั้ง 2 ศพ โดยที่เหยื่อทั้งสองราย ไม่สามารถต่อสู้ หรือส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์ หรือประเด็นเรื่องชู้สาว เพราะเนื่องจากคนตายทั้งสองคน เพิ่งจะพบรักกันเมื่อไม่นาน เมื่อครั้งที่ฝ่ายชายเดินทางไปประท้วงบริษัทเกี่ยวกับเรื่องค่าแรงที่กรุงเทพฯและได้พบกับฝ่ายหญิง
จากนั้นก็ไปมาหาสู่กันได้ไม่เท่าไหร่ ก็มาตัดสินใจแต่งงานกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเช็กประวัติของทั้งสองคนว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนออกหาข่าวอย่างเร่งด่วนแล้วว่ามีใครบ้างในละแวกที่เกิดเหตุที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เพื่อจะได้นำตัวมาทำการสอบสวนเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามฆาตกรโหดรายนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
