พบรถเหยื่อแชร์รถเช่าจอดทิ้งริมคลองเปลี่ยวย่านบางคล้า

ฉะเชิงเทรา - พบรถเหยื่อขบวนการแชร์รถเช่าโผล่อีกคันที่แปดริ้ว จอดทิ้งริมคลองชลประทานในที่เปลี่ยวย่านเขตบางคล้า ชาวเผยพบผิดสังเกตถูกนำมาจอดทิ้งไว้เมื่อช่วงก่อนค่ำวันก่อน

วานนี้(16 ก.พ.51) เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสันต์ ศรีเจริญ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.30 น. ชาวบ้านได้เข้ามาแจ้งว่าพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออสรุ่นใหม่ สีบรอนซ์เทา ป้ายแดง เลขทะเบียน ฐ-2494 กทม. ถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณริมไหล่ทาง บนถนนภายในหมู่บ้าน ตัดกับถนนเลียบคลองชลประทานส่งน้ำ ซึ่งสงสัยว่าอาจจะเป็นรถยนต์ ที่อยู่ในขบวนการแชร์รถเช่า ที่กำลังเกิดปัญหา และตกเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ จึงได้โทรศัพท์เข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของท้องที่ให้มาทำการตรวจสอบ

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาทำการตรวจสอบในครั้งแรก จะไม่ดำเนินการใดๆ โดยจะปล่อยทิ้งไว้ยังจุดที่พบ แต่ตนเกรงว่าจะเกิดปัญหา หรือสิ่งไม่ดีขึ้นมาในหมู่บ้านภายหลัง จึงได้บอกกับตำรวจว่าถ้าตำรวจไม่ดำเนินการอะไร หรือยกไปเก็บไว้ จะต้องมีคนคอยเฝ้า หรือหากติดขัดปัญหาอะไรตนจะโทรศัพท์ไปคุยกับผู้กำกับการ สภ.บางคล้าเอง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถยกมายกรถคันดังกล่าวไปเก็บไว้ยัง สภ.บางคล้า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาในทันที

ขณะที่นายธงชัย นิลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.3 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า พื้นที่ติดกัน กล่าวว่า ได้พบรถคันดังกล่าวถูกนำมาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 15 ก.พ. แต่ไม่เห็นตัวคนขับ ครั้งแรกยังเข้าใจว่าเป็นหนุ่มสาวขับรถเข้ามาหาที่เปลี่ยวเพื่อแอบพลอดรักจู๋จี๋กัน จึงไม่สนใจอะไร และมาทราบภายหลังว่า เป็นรถยนต์ที่อยู่ในขบวนการที่กำลังตกเป็นข่าว

ด้าน ร.ต.ต.เดชฤทธิ์ ศรีคชา ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางคล้า เจ้าของคดีกล่าวว่า ได้ติดต่อกับเจ้าของรถได้แล้ว และทราบว่าเป็นรถที่ถูกขบวนการแชร์รถเช่านำมาจอดทิ้งจริง โดยเมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าของรถ คือ นางวารุณี บินอับดุลการีม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.11 ถ.เจริญพัฒนา 21 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ได้นำหลักฐานมายืนยันแสดงความเป็นเจ้าของแล้ว และได้แนะนำให้ไปเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้เป็นคดีเดียวกัน เพราะเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนจำนวนมาก และเป็นความประสงค์ของผู้เสียหายเอง ส่วนรถยนต์ของกลางนั้น ได้ทำบันทึกการตรวจยึดไว้ ที่ สภ.บางคล้า

นางวารุณี กล่าวว่า รถยนต์คันดังกล่าวตนได้ให้ น.ส.ณัฐนรินทร์ มูฮัมหมัด อายุ 33 ปี ผู้ทำสัญญาเช่าในนามบริษัทยูซูกุ ดิคอเรท จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 2/2 ถ.รามอินทรา 117 เขตมีนบุรี เช่าไปเมื่อวันที่ 29 ต.ค.50 และได้ขาดการติดต่อหายไปเมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค.51 ที่ผ่านมา รู้สึกดีใจมากที่ได้รถคืนมาแล้ว 1 คัน จากทั้งหมดในกลุ่มเครือญาติที่ร่วมกันทำรถเช่าทั้งหมดจำนวน 20 คัน และยังเหลืออีก 19 คัน ที่ยังเงียบหาย คันนี้ถือเป็นคันแรกที่ได้คืน

ในครั้งแรกที่ตัดสินใจทำธุรกิจรถเช่าในลักษณะนี้ เพราะเห็นว่าได้เงินค่าเช่าดี ตกเดือนละกว่า 33,000 บาทต่อคัน ใช้เงินส่งค่าเช่าซื้อเพียง 11,000 บาทเศษ ยังเหลือผลกำไรอีกเดือนละกว่า 21,000 บาท จึงตัดสินใจ นำที่ดินเข้าจำนอง เพื่อนำเงินไปดาวน์รถยนต์ออกมาให้เช่าจำนวน 5 คัน เป็นชื่อของตนเอง 1 คัน สามี 2 คัน และถูกอีก 2 คน คนละ 1 คันรวม 5 คัน ในช่วงสองเดือนแรกได้เงินดีมาก ผู้เช่าจ่ายเงินให้ตรงตามเวลากำหนด ในทุกๆ 10 วัน แต่ต่อมาระยะหลัง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาการจ่ายเงินเริ่มมีปัญหา หลังมีการนัดจ่ายแล้วก็ขอเลื่อน หรือผัดผ่อนอยู่ตลอด ต่อมาได้จ่ายเป็นเช็ค รวม 3 ครั้ง และเมื่อนำไปเบิกก็กลายเป็นเช็คเด้งไม่สามารถเบิกเงินได้ และผู้เช่าได้หายตัวไปโดยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย

ในวันนี้จึงได้นำหลักฐานการเช่าซื้อรถ สำเนาคู่มือการจดทะเบียน และสัญญาให้เช่าใช้รถ มาแสดงต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี แล้ว แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้นัดให้มาแจ้งความใหม่ในวันจันทร์ ที่ 18 ก.พ.51 นี้