สุราษฎร์ธานี - เหยื่อแก๊ง ตชด.นอกรีต โผล่ร้องเรียนขอความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 2 ผัว-เมียเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าชนะ เผยถูกรีดเงิน 50,000 บาท แต่ไม่ยอมจ่าย ถูกยัดยาบ้า 30 เม็ด พร้อมใช้ไฟฟ้าช็อตอวัยวะเพศให้รับสารภาพ
วานนี้ (30 ม.ค.) นายปิติพงษ์ หรือ โก้ คงทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.5 ต.ทรายทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย น.ส.ประภาพร หรือ อุ๋ย คำโพธิศรี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.6 ต.โนนหมากมุ่น อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แฟนสาว และญาติ เข้าแจงความร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.สุธีรา อ่อนสด ผกก.สภ.ท่าชนะ และ พ.ต.ต.ปัญญวัฒน์ เนียมละออง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
เพื่อเอาผิดกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ หัวหน้าแก็ง ตชด.นอกรีตพร้อมพวกยัดยาบ้า จำนวน 30 เม็ด และแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย” หลังจากตรวจค้นไม่พบยาบ้า และทรมานบีบบังคับ โดยใช้ไฟฟ้าช็อตอวัยวะเพศ ให้จ่ายเงิน จำนวน 50,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินจ่ายจึงยัดยาบ้า และแจ้งข้อหามียาเสพติด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะ โดยขณะนี้คดีกำลังขึ้นสู่ศาลและอยู่ในระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ประกันตัวในชั้นศาล
โดย นายปิติพงษ์ คงทอง ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วันที่ 22 ก.ย.2550 ขณะที่ตนเองกับ นายวัชรินทร์ จีนหีต พี่เขย และ นายแม็ก ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่เขยนั่งคุยที่ขนำ เพื่อที่จะไปตัดไม้ไผ่ มาประกอบกับเรือประมงที่เพิ่งซื้อมา เพื่อนำไปเกาะพะงัน บ้านเกิด
โดย นายแม็ก ทราบว่า มีประวัติติดยาเสพติดได้นำยาบ้าออกมาเสพ และชักชวนให้ตนเสพกับนายวัชรินทร์ เสพด้วย แต่ปฏิเสธไป ต่อมา นายแม็ก ได้ขอตัวไปซื้อของ ระหว่างนั้นได้มีชายไทย จำนวน 5 คน ทราบภายหลังว่า เป็นชุดของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ กับพวก ใช้รถยนต์กระบะ ตอนครึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับเข้ามาจอดที่ขนำ และอ้างว่า เป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้จับกุมตนเองกับนายวัชรินทร์ พี่เขย และค้นตัว แต่ไม่มียาเสพติด ต่อมาจึงนำตัวไปที่เซฟเฮาส์ บริเวณซอยหน้าห้างโลตัส และค้นตัวอีก
พร้อมกับบอกว่า ตนเองมียาบ้า จำนวน 10 เม็ด ซึ่งเมื่อมาถึงที่เซฟเฮาส์ ทางชุดของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ได้ใช้ไฟฟ้าช็อตที่อวัยวะเพศ
บังคับให้ตนรับสารภาพว่า มียาบ้า และบอกให้ติดต่อกับญาติ เพื่อนำเงินมาให้ จำนวน 50,000 บาท และบอกว่า สามารถเคลียร์คดีนี้ได้ โดยให้ติดต่อกับ น.ส.ประภาพร ภรรยา ซึ่งอยู่ ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมกับพาตัวไปที่ จ.ชุมพร โดยบอกว่าเพื่อขยายผล แต่เมื่อถึงบ้านเช่าได้จับภรรยา พร้อมยัดยาบ้าอีก 10 เม็ด
ด้าน น.ส.ประภาพร คำโพธิศรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2550 ได้ถูก ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.41 จ.ชุมพร บุกเข้าจับกุมตนที่บ้านพักใน อ.ฉวี เมื่อตำรวจไปถึงบ้านเช่า ที่ตนพักกับแม่สามี เพื่อติดต่อทำธุรกิจประมูลงานรับเหมาทำความสะอาด
ชุดของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ได้บุกเข้าไปในบ้าน และบังคับให้แม่สามีออกมาอยู่หน้าบ้าน และ นายปิติพงษ์ สามีถูกตำรวจพาตัวมาด้วยแต่บังคับให้อยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้บังคับตนให้ขึ้นไปบนบ้านพัก พร้อมกับทำร้ายร่างกายตบตี และใช้ไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย เพื่อให้บอกที่ซุกซ่อนยาบ้า เมื่อไม่พบ ได้บังคับให้ตนรับว่า มียาบ้า จำนวน 10 เม็ด ในกระเป๋าเงิน พร้อมถ่ายรูปทั้งที่ภายในกระเป๋าไม่มีอะไรเลย
หลังจากนั้น ได้นำตัวตนเอง และสามีมากักขังที่บ้านพักในหมู่บ้านหน้าห้างเทสโก้โลตัส กลางเมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมกับข่มขู่เรียกเงิน จำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เมื่อตนและสามีบอกไม่มีเงิน ร.ต.อ.ณัฏฐ์ บอกว่า จะยัดยาบ้า จำนวน 30 เม็ด และให้เป็นผู้ค้ารายใหญ่ บังคับให้เซ็นชื่อรับสารภาพ เมื่อไม่ยอมลงชื่อ ตนและสามีจึงถูกทำร้ายร่างกาย โดยใช้ไฟฟ้าช็อตตามร่างกายและอวัยวะเพศ จนทนความเจ็บปวดไม่ไหวต้องจำใจลงชื่อรับสารภาพเป็นผู้ต้องหา
ด้าน นางกรรณิกา ศรียาภัย อายุ 29 ปี พี่สาว นายปิติพงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.2 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวยืนยันว่า น้องชาย และน้องสะใภ้ ถูกยัดยาบ้าอย่างแน่นอน เพราะครอบครัวเองพอมีฐานะ โดยเป็น หจก.โฟกัสเซอร์วิสแอนด์ซัพพลาย ซึ่งขายเคมีภัณฑ์ และรับประมูลงานทำความสะอาดหลายจังหวัด
อีกทั้งยังมีเรือประมงหลายลำอยู่ที่เกาะพะงัน มีรายได้แต่ละเดือนประมาณ 4-5 แสนบาท ซึ่งที่ตำรวจชุดนี้จับกุม เพราะสืบทราบมาว่า ครอบครัวตนเองพอจะมีเงินอยู่จึงใช้คนที่เคยเสพยาเสพติดมาล่อ
โดยทราบว่า นายแม็ก เคยมีประวัติเสพยาตำรวจชุดนี้ให้เป็นสาย เพื่อติดต่อคนที่พอมีฐานะ เพื่อบีบเอาเงิน ตั้งแต่วันเกิดเหตุตำรวจชุดดังกล่าว ได้โทรศัพท์มาที่ตนบอกว่า ให้โอนเงินเข้าบัญชีประมาณ 5 หมื่น และสามารถคุยกันได้ ตนได้ตอบโต้ไปว่า ไม่มี และบอกไปว่าจะสู้คดีให้ถึงที่สุด