ชุมพร - นักท่องเที่ยวถูกคลื่นซัดจมหาย ขณะลงไปเล่นน้ำฉลองเทศกาลปีใหม่ย้อนหลัง ที่ “หาดทุ่งวัวแล่น” จังหวัดชุมพร ขณะที่ผู้ว่าฯชุมพร รุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแล้ว
วันนี้ (20 ม.ค.51) นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่น ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนในวันหยุด ถูกคลื่นซัดจมหายขณะลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนที่ผ่านมา (19 ม.ค.51)
สำหรับผู้ที่ถูกคลื่นซัดจมหายไปในท้องทะเล คือ นายอาทิตย์ ถ้วยทอง อายุ 26 ปี บ้านอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งชุดกู้ภัยและนักประดาน้ำ ประกอบด้วยตำรวจน้ำ หน่วยกู้ชีพมูลนิธิชุมพร หน่วยกู้ภัยสายชล เรือตรวจการประมงทะเล และเจ้าหน้าที่จาก อบต.สะพลี ได้ระดมกำลังกว่า 30 นาย เร่งค้นหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ยังไร้วี่แววหรือพบศพของผู้ที่สูญหาย
สอบถามทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอาทิตย์ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมงานกว่า 20 คน ได้เดินทางมาพักผ่อนบริเวณชายหาดดังกล่าวและนั่งล้อมวงดื่มเหล้าและรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่เนื่องจากเป็นวันหยุดและอยู่พร้อมหน้าเพื่อนฝูง ภายหลังจากดื่มกินกันจนมีอาการมึนเมาเล็กน้อย ก็ได้ชวนกันลงไปเล่นน้ำโดยไม่ได้สวมใส่เสื้อชูชีพ จนเกิดเหตุคลื่นพัดจมหายไปในท้องทะเล
นายอดิศักดิ์ ถั่วสวัสดิ์ อายุ 20 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 5 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ เพื่อนของนายอาทิตย์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนพร้อมกับนายอาทิตย์และเพื่อนๆ รวม 3 คน ได้ลงไปเล่นน้ำโดยออกห่างจากฝั่งไปประมาณ 20 เมตร ขณะเล่นน้ำไปได้สักพักได้ยินเสียงนายอาทิตย์ ร้องตะโกนให้ช่วยบอกว่า ไม่ไหวแล้ว ขณะนั้นตนอยู่ห่างไม่มากนักได้พยายามว่ายน้ำออกไปช่วย แต่คลื่นได้กลืนร่างนายอาทิตย์จมหายไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นได้รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือค้นหา
ด้านนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวภายหลังเดินทางไปที่เกิดเหตุ ว่า ปกติจะมีป้ายเตือนบอกนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง ห้ามออกไปเล่นน้ำห่างจากชายฝั่ง แต่ป้ายเตือนที่ปกติมีอยู่ 3 – 4 ป้าย ชำรุดเสียหาย จนมาเกิดเหตุการณ์สลดใจดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งทำป้ายแจ้งเตือน นำมาติดประกาศให้มีจำนวนถี่มากขึ้น
เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นร่องน้ำอันตราย เวลานักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำก็จะถูกคลื่นซัดหมุนวนลงไปสู่ก้นทะเล ซึ่งจะต้องดูแลและเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยต่อไป เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีของการท่องเที่ยว
วันนี้ (20 ม.ค.51) นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่น ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนในวันหยุด ถูกคลื่นซัดจมหายขณะลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนที่ผ่านมา (19 ม.ค.51)
สำหรับผู้ที่ถูกคลื่นซัดจมหายไปในท้องทะเล คือ นายอาทิตย์ ถ้วยทอง อายุ 26 ปี บ้านอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งชุดกู้ภัยและนักประดาน้ำ ประกอบด้วยตำรวจน้ำ หน่วยกู้ชีพมูลนิธิชุมพร หน่วยกู้ภัยสายชล เรือตรวจการประมงทะเล และเจ้าหน้าที่จาก อบต.สะพลี ได้ระดมกำลังกว่า 30 นาย เร่งค้นหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ยังไร้วี่แววหรือพบศพของผู้ที่สูญหาย
สอบถามทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอาทิตย์ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมงานกว่า 20 คน ได้เดินทางมาพักผ่อนบริเวณชายหาดดังกล่าวและนั่งล้อมวงดื่มเหล้าและรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่เนื่องจากเป็นวันหยุดและอยู่พร้อมหน้าเพื่อนฝูง ภายหลังจากดื่มกินกันจนมีอาการมึนเมาเล็กน้อย ก็ได้ชวนกันลงไปเล่นน้ำโดยไม่ได้สวมใส่เสื้อชูชีพ จนเกิดเหตุคลื่นพัดจมหายไปในท้องทะเล
นายอดิศักดิ์ ถั่วสวัสดิ์ อายุ 20 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 5 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ เพื่อนของนายอาทิตย์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนพร้อมกับนายอาทิตย์และเพื่อนๆ รวม 3 คน ได้ลงไปเล่นน้ำโดยออกห่างจากฝั่งไปประมาณ 20 เมตร ขณะเล่นน้ำไปได้สักพักได้ยินเสียงนายอาทิตย์ ร้องตะโกนให้ช่วยบอกว่า ไม่ไหวแล้ว ขณะนั้นตนอยู่ห่างไม่มากนักได้พยายามว่ายน้ำออกไปช่วย แต่คลื่นได้กลืนร่างนายอาทิตย์จมหายไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นได้รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือค้นหา
ด้านนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวภายหลังเดินทางไปที่เกิดเหตุ ว่า ปกติจะมีป้ายเตือนบอกนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง ห้ามออกไปเล่นน้ำห่างจากชายฝั่ง แต่ป้ายเตือนที่ปกติมีอยู่ 3 – 4 ป้าย ชำรุดเสียหาย จนมาเกิดเหตุการณ์สลดใจดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งทำป้ายแจ้งเตือน นำมาติดประกาศให้มีจำนวนถี่มากขึ้น
เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นร่องน้ำอันตราย เวลานักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำก็จะถูกคลื่นซัดหมุนวนลงไปสู่ก้นทะเล ซึ่งจะต้องดูแลและเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยต่อไป เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีของการท่องเที่ยว