ชุมพร - ตรุษจีนเที่ยวทะเล จ.ชุมพร คลื่นซัดจมดับ 3 ศพ สูญหาย อีก 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหาย
พ.ต.ท.อติชาติ พรฑิตกุล สารวัตรเวร สภ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุนักท่องเที่ยวหลายรายจมน้ำบริเวณอ่าวทุ่งไข่เน่า หมู่ 5 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังหน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่รีบเดินทางไปตรวจสอบช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าของบังกะโลชื่อคอรัลบีช ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชายหาดสวยงามขึ้นชื่อของ จ.ชุมพร โดยช่วงเทศกาลจะมีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวกันจำนวนมาก จากการตรวจสอบทราบว่ามีนักท่องเที่ยวจมน้ำจำนวน 4 คน ซึ่งหน่วยกู้ภัยและชาวบ้านในพื้นที่ได้ลงไปค้นหานำศพขึ้นมาจากทะเลมาได้ 2 ราย โดยนำส่งโรงพยาบาลปะทิวไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ด.ญ.ไอลดา ป่ามะขำ อายุ 13 ปี และ นายจำปี บัวทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเดียวกันเลขที่ 27 หมู่ 9 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
นอกจากนั้นยังมีเด็กถูกคลื่นทะเลซัดจมหายไปอีก 2 คน ทราบชื่อ ด.ช.สหรัฐ ป่ามะขำ อายุ 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 9 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และ ด.ญ. สุธาพร จำปาแดง 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 12 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยมี นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.ชุมพร เดินทางมาตรวจสอบและสั่งการให้ ระดมหน่วยกู้ภัยศิรินทร์ปะทิว อปพร. มูลนิธิชุมพร และนักประดาน้ำรวมกว่า 50 คน ออกค้นหาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ทะเลมีคลื่นลมแรง ท้องฟ้ามืดคลึ้ม เป็นอุปสรรค์ต่อการปฎิบัติหน้าที่อย่างมาก
ล่าสุด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบศพ ด.ญ. สุธาพร จำปาแดง 11 ปี ถูกคลื่นซัดจมเสียชีวิตอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วน ด.ช.สหรัฐ ป่ามะขำ อายุ 11 ปี ขณะนี้หน่วยกู้ภัยยังคงระดมค้นหาซึ่งยังไม่พบแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่า นายจำปี บัวทอง อายุ 49 ปี ผู้เสียชีวิตเดิมเป็นคนภาคอีสาน ได้เดินทางมารับจ้างเป็นคนงานทำสวนอยู่ที่ร้านราเชนพันธุ์ไม้ ในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยช่วงเกิดเหตุทางร้านได้หยุดเทศกาลวันตรุษจีน ผู้ตายได้พาหลานๆ และเครือญาติ มาเที่ยวทะเล ระหว่างลงเล่นน้ำได้ถูกกระแสคลื่นซัดจมหายลงไปในทะเลต่อหน้าต่อตานักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ซึ่งหน่วยกู้ภัยและชาวบ้านสามารถนำศพขึ้นมาได้ 3 ราย ส่วนอีก 1 รายคือ ด.ช.สหรัฐ ป่ามะขำ อายุ 11 ปี และ เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัย และนักประดาน้ำ ยังคงระดมกำลังออกค้นหาอย่างต่อเนื่องซึ่งขณะนี้ยังไม่พบเด็กทั้งสองแต่อย่างใด
สำหรับบริเวณดังกล่าวถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชายหาดสวยงาม โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก และช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการจมน้ำตาย 1-2 ราย เป็นประจำทุกปี เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นชายหาดโค้งว้าวอยู่ข้างเชิงเขา มีลักษณะเป็นแอ่งกะทะ กระแสน้ำเชี่ยวและไหลวน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง สนใจแก้ไขปัญหานำทุ่นไปวาง หรือเขียนป้ายแจ้งเตือนภัยแก่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
