ชุมพร-คนร้ายไม่ทราบกลุ่มควงเอ็ม 16-ลูกซอง 5 นัด-11 มม.-9 มม. ยิงถล่ม 100 นัด เสี่ยใหญ่ชื่อดัง “ฉุย ท่าชนะ” อาการร่อแร่ ส่วนลูกน้องคนสนิทถูกกระสุนร่างพรุนร่วม 100 นัด ดับคารถ คาดขัดแย้งกับเจ้าพ่อสุราษฎร์ธานี
วันนี้ (16 ม.ค.) พ.ต.ท.อุดม เลิศเพชรไพศาล สารวัตรเวร สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายเอเชีย 41 ช่วงหลัก กม.ที่ 563 - 564 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัตร ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวน และเจ้าหน้าที่สมาคมพุทธประทีปหลังสวนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามโรงแรมอวยชัยแกรนด์ และตลาดกลางการเกษตรอวยชัย 3 มีปลอกกระสุนตกเกลื่อนนับ 100 ปลอก พบรถแวน ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นจี แวกอน สีเลือดหมูสลับขาว หมายเลขทะเบียน บฮ - 9434 กรุงเทพฯ มีรอยถูกยิงพรุนไปทั้งคัน จอดอยู่ในช่องทางฝั่งขาขึ้น กทม. ในลักษณะที่ล้อหลังทั้ง 2 ข้างเสยขึ้นไปเกยอยู่บนกันชนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเอ็กซิเออร์ หมายเลขทะเบียน 2 ณ-9591 กทม.
ตรวจสอบภายในรถมิตซูบิชิ ที่ถูกยิงพบศพทราบชื่อ นายยุทธนา ยิ้มใหญ่หลวง อายุ 32 สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา - ดำ กางเกงยีนส์ อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 3 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 4 ชนิดด้วยกัน คือ เอ็ม 16, 9 ม.ม., 11 ม.ม. และลูกซองยาว ที่ศีรษะ และตามลำตัวนับ 100 รู จนพรุนไปทั้งตัว
โดยผู้ตายมีอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.เหน็บอยู่ที่เอว สภาพศพนั่งอยู่ในที่นั่งด้านคนขับเอนคร่อมเกียร์ไปทางที่นั่งผู้โดยสารด้านซ้าย ซึ่งมีนายชัยรัตน์ กลางนุรักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 5 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลักษณะคล้ายกันที่ศีรษะ และตามลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ใกล้กันพบนางสุชาดา กลางนุรักษ์ อายุ 38 ปี ภรรยาของนายชัยรัตน์ยืนอยู่นอกรถแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.หลังสวนเพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน และยังพบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บง - 1549 ระนอง โดนลูกหลงถูกยิงหลายนัดจอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุด้วย
จากการสอบสวนทราบว่า นายชัยรัตน์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันปิโตรเอเซีย หรือ “ปั๊ม พีเอ” และเจ้าของนากุ้งหลายแห่งใน จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนนายยุทธนา ยิ้มใหญ่หลวง ที่ถูกยิงเสียชีวิต เป็นพนักงานขับรถ และคนคุ้มกันนายชัยรัตน์ ก่อนเกิดเหตุ นายชัยรัตน์ และนางสุชาดา กำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติที่กรุงเทพฯ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุนางสุชาดาได้ขอให้นายยุทธนาจอดรถ เพื่อลงไปซื้อสะตอสำหรับเป็นของฝากญาติ เมื่อนางสุชาดาเดินลงจากรถประมาณ 5 นาที ก็มีรถกระบะ 2 คัน ขับแซงเข้าจอดด้าน และด้านข้าง หลังจากนั้น คนร้ายไม่ทราบจำนวนที่นั่งอยู่ในกระบะท้ายทั้ง 2 คัน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16, 9 ม.ม., 11 ม.ม. และ ลูกซองยาว
กระหน่ำยิงใส่หน้ารถของนายชัยรัตน์ เสียงดังกึกก้องไปทั่ว จนทำให้ประชาชนที่กำลังเลือกซื้อสินค้าในตลาดกลางเกษตรแตกตื่นวิ่งหนีกันชุลมุน ทำให้รถของนายชัยรัตน์กระชากถอยหลังไปเสยอยู่บนกันชันของรถ และทำให้นายยุทธนาเสียชีวิต ส่วนนายชัยรัตน์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางสุชาดาโชคดีที่ลงไปซื้อสะตอในขณะเกิดเหตุจึงไม่ได้รับอันตราย
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรถกระบะของคนร้ายจอดทิ้งอยู่หน้าโรงแรมชุมทอง ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ตรวจสอบพบเป็นรถกระบะตอนครึ่ง สีบรอนซ์ทอง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ ทะเบียน 4072 สุราษฎร์ธานี แต่แผ่นป้ายทะเบียนใช้เชือกผูกเอาไว้ คาดว่า อาจที่ถูกโจรกรรมมา
ส่วนสาเหตุสันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจที่นายชัยรัตน์ทำอยู่ ทั้งปั๊มน้ำมันและนากุ้ง อีกทั้ง “เสี่ยฉุย ท่าชนะ” เคยมีเรื่องขัดแย้งกับบุคคลระดับเจ้าพ่อใน จ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นกำนันชื่อดังในวงการนักเลง ถึงขั้นเคยยิงถล่มกันมาแล้วหลายครั้ง จนมีตำรวจคนสนิทรับเคราะห์ถูกยิงตายเมื่อปีที่แล้ว แต่ “เสี่ยฉุย ท่าชนะ” ก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด
“เสี่ยฉุย ท่าชนะ” ถือได้ว่า เป็นคนหนุ่มมีความกว้างขวางในวงการนักเลงของ จ.สุราษฏร์ธานี และกำลังไต่เต้าขึ้นมามีชื่อเสียง อีกทั้งเป็นคนสนิทของ พ.ต.อ.คนหนึ่ง ที่เคยมีข่าวโด่งดังในเรื่องการบุกรุกป่าชายเลน
เพื่อทำนากุ้ง และพัวพัน ยิง ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคดีกำลังอยู่ในชั้นศาล ส่วนรถที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ อาจเป็นรถที่โจรกรรมมา เพื่อใช้ในการสังหารนายชัยรัตน์ ก่อนจะขึ้นรถอีกคันหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด ก่อนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
วันนี้ (16 ม.ค.) พ.ต.ท.อุดม เลิศเพชรไพศาล สารวัตรเวร สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายเอเชีย 41 ช่วงหลัก กม.ที่ 563 - 564 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัตร ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวน และเจ้าหน้าที่สมาคมพุทธประทีปหลังสวนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามโรงแรมอวยชัยแกรนด์ และตลาดกลางการเกษตรอวยชัย 3 มีปลอกกระสุนตกเกลื่อนนับ 100 ปลอก พบรถแวน ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นจี แวกอน สีเลือดหมูสลับขาว หมายเลขทะเบียน บฮ - 9434 กรุงเทพฯ มีรอยถูกยิงพรุนไปทั้งคัน จอดอยู่ในช่องทางฝั่งขาขึ้น กทม. ในลักษณะที่ล้อหลังทั้ง 2 ข้างเสยขึ้นไปเกยอยู่บนกันชนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเอ็กซิเออร์ หมายเลขทะเบียน 2 ณ-9591 กทม.
ตรวจสอบภายในรถมิตซูบิชิ ที่ถูกยิงพบศพทราบชื่อ นายยุทธนา ยิ้มใหญ่หลวง อายุ 32 สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา - ดำ กางเกงยีนส์ อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 3 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 4 ชนิดด้วยกัน คือ เอ็ม 16, 9 ม.ม., 11 ม.ม. และลูกซองยาว ที่ศีรษะ และตามลำตัวนับ 100 รู จนพรุนไปทั้งตัว
โดยผู้ตายมีอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.เหน็บอยู่ที่เอว สภาพศพนั่งอยู่ในที่นั่งด้านคนขับเอนคร่อมเกียร์ไปทางที่นั่งผู้โดยสารด้านซ้าย ซึ่งมีนายชัยรัตน์ กลางนุรักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 5 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลักษณะคล้ายกันที่ศีรษะ และตามลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ใกล้กันพบนางสุชาดา กลางนุรักษ์ อายุ 38 ปี ภรรยาของนายชัยรัตน์ยืนอยู่นอกรถแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.หลังสวนเพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน และยังพบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บง - 1549 ระนอง โดนลูกหลงถูกยิงหลายนัดจอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุด้วย
จากการสอบสวนทราบว่า นายชัยรัตน์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันปิโตรเอเซีย หรือ “ปั๊ม พีเอ” และเจ้าของนากุ้งหลายแห่งใน จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนนายยุทธนา ยิ้มใหญ่หลวง ที่ถูกยิงเสียชีวิต เป็นพนักงานขับรถ และคนคุ้มกันนายชัยรัตน์ ก่อนเกิดเหตุ นายชัยรัตน์ และนางสุชาดา กำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติที่กรุงเทพฯ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุนางสุชาดาได้ขอให้นายยุทธนาจอดรถ เพื่อลงไปซื้อสะตอสำหรับเป็นของฝากญาติ เมื่อนางสุชาดาเดินลงจากรถประมาณ 5 นาที ก็มีรถกระบะ 2 คัน ขับแซงเข้าจอดด้าน และด้านข้าง หลังจากนั้น คนร้ายไม่ทราบจำนวนที่นั่งอยู่ในกระบะท้ายทั้ง 2 คัน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16, 9 ม.ม., 11 ม.ม. และ ลูกซองยาว
กระหน่ำยิงใส่หน้ารถของนายชัยรัตน์ เสียงดังกึกก้องไปทั่ว จนทำให้ประชาชนที่กำลังเลือกซื้อสินค้าในตลาดกลางเกษตรแตกตื่นวิ่งหนีกันชุลมุน ทำให้รถของนายชัยรัตน์กระชากถอยหลังไปเสยอยู่บนกันชันของรถ และทำให้นายยุทธนาเสียชีวิต ส่วนนายชัยรัตน์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางสุชาดาโชคดีที่ลงไปซื้อสะตอในขณะเกิดเหตุจึงไม่ได้รับอันตราย
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรถกระบะของคนร้ายจอดทิ้งอยู่หน้าโรงแรมชุมทอง ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ตรวจสอบพบเป็นรถกระบะตอนครึ่ง สีบรอนซ์ทอง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ ทะเบียน 4072 สุราษฎร์ธานี แต่แผ่นป้ายทะเบียนใช้เชือกผูกเอาไว้ คาดว่า อาจที่ถูกโจรกรรมมา
ส่วนสาเหตุสันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจที่นายชัยรัตน์ทำอยู่ ทั้งปั๊มน้ำมันและนากุ้ง อีกทั้ง “เสี่ยฉุย ท่าชนะ” เคยมีเรื่องขัดแย้งกับบุคคลระดับเจ้าพ่อใน จ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นกำนันชื่อดังในวงการนักเลง ถึงขั้นเคยยิงถล่มกันมาแล้วหลายครั้ง จนมีตำรวจคนสนิทรับเคราะห์ถูกยิงตายเมื่อปีที่แล้ว แต่ “เสี่ยฉุย ท่าชนะ” ก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด
“เสี่ยฉุย ท่าชนะ” ถือได้ว่า เป็นคนหนุ่มมีความกว้างขวางในวงการนักเลงของ จ.สุราษฏร์ธานี และกำลังไต่เต้าขึ้นมามีชื่อเสียง อีกทั้งเป็นคนสนิทของ พ.ต.อ.คนหนึ่ง ที่เคยมีข่าวโด่งดังในเรื่องการบุกรุกป่าชายเลน
เพื่อทำนากุ้ง และพัวพัน ยิง ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคดีกำลังอยู่ในชั้นศาล ส่วนรถที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ อาจเป็นรถที่โจรกรรมมา เพื่อใช้ในการสังหารนายชัยรัตน์ ก่อนจะขึ้นรถอีกคันหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด ก่อนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.