ปัตตานี – นักวิชาการพร้อมนักศึกษาภูมิศาสตร์ มอ.ปัตตานี ร่วมขุดแหล่งโบราณสถานภายในวัดบ้านดี เพื่อจัดทำข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์ของภาคใต้ตอนล่าง
วันนี้ (15 ม.ค.) ภายในบริเวณวัดบ้านดี หมู่ 3 ต.บาราโหม อ.เมืองปัตตานี รศ.ดร.ครองชัย หัตถา หัวหน้าภาควิชาภูมิศาสตร์ นำนักศึกษาวิชาเอกภูมิศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ทำการขุดเจาะดินบริเวณภายในวัดเพื่อสำรวจร่องรอยของเจดีโบราณที่มีอายุมากกว่า 500 ปี หลังจากที่เจดีแห่งนี้ได้ล้มพังเสียหาย และยังคงเหลือเพียงส่วนฐานของเจดีทิ้งไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งมีขนาดกว้างมาก
โดยนักศึกษาได้ทำการขุดเป็นแนวตามตารางสี่เหลี่ยม ค้นหาความกว้างและความสูงของเจดี เพื่อนำประกอบเป็นข้อมูลสนับสนุนอุทยานประวัติศาสตร์ของภาคใต้ตอนล่างต่อไป ทั้งนี้คงต้องใช้เวลาในการขุดอีกหลายวันเพราะสภาพปัจจุบันได้มีการก่อสร้างบนเนื้อที่ดังกล่าวไว้ข่อนข้างมาก
จากข้อมูลเบื้องต้นบริเวณวัดบ้านดี เคยเป็นชุมชนเก่าแก่ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นตรงกับยุคสมัยปกครองของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา ได้ทรงมอบเชลยศึกที่ได้มาจากกัมพูชาและพม่า นับถือศาสนาพุทธ มอบให้แก่สุลต่าน มุซ๊อรฟัรชาร์ กษัตริย์ผู้ปกครองเมืองปัตตานี 160 คนในระหว่างที่ทรงเยือนเมืองกรุงศรีอยุธยา เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างกันในฐานะเป็นเมืองพี่เมืองน้อง
เมื่อกลับมาถึงเมืองปัตตานี พระองค์ได้ทรงมอบที่ดินบริเวณคลองปาเระ ซึ่งตรงข้ามกับบริเวณประตูช้าง ของพระตำหนักอิสตานานีลัมไว้เพื่อจัดสร้างบ้านเรือนและวัดในพื้นที่ประมาณ 73 ไร่ ปัจจุบันในบริเวณพื้นที่รอบๆ วัดได้มีประชานทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม สร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีการเกื้อกูลซึ่งกันและชั้นพี่น้อง อย่างชนิดที่ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งใดๆ
รศ.ดร.ครองชัย กล่าวอีกว่า นับเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ประชาชนที่สามารถอยู่ร่วมกันได้แม้จะมีการนับถือต่างศาสนากันแล้วก็ตาม ควรอย่างยิ่งที่จะมีการศึกษาเพื่อที่จะนำไปสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน