แม่ฮ่องสอน - พบคุกดินสมัยขุนส่าที่ชายแดนไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน คาด ไว้จับเชลยศึกขังใต้ดิน เตรียมเสนอผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ประชาสัมพันธ์ดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต
นางจุไรรัตน์ แพรวพราย ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พบคุกดินสมัยขุนส่า ที่ไว้สำหรับกักขังเชลยศึก ที่บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขนาดความกว้างของปากบ่อประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร ขณะที่ภายใต้คุกดินมีความกว้าง 5 เมตร สามารถกักขังเชลยศึกได้ไม่น้อยกว่า 10 คน
โดยโครงสร้างยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นเรือนไม้ไผ่เพื่อป้องกันฝน ในอนาคตสามารถนำเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ชาวบ้านรักไทยได้เขียนป้ายไว้ที่บริเวณคุกดินทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ทราบถึงคุกดินสมัยขุนส่า ด้วย
“การพบครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์มาก และจะเร่งนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และผู้นำท้องถิ่นในการปรับปรุงและประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป” นางจุไรรัตน์ กล่าว
สำหรับ บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รัฐบาลไทยได้ให้ชนกลุ่มน้อย (กองพล 93) เข้ามาอาศัยซึ่งติดกับประเทศพม่า (รัฐฉาน) เขตอิทธิพลของขุนส่าราชายาเสพติดโลก หรือผู้นำกองกำลัง MTA ขุนส่า เมื่อราวปี 2527
โดยขุนส่าเริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามายังพื้นที่ชายแดนไทยบริเวณบ้านรักไทย ก่อนจะเกิดการสู้รบกันขึ้นระหว่างชนกลุ่มน้อย กองพล 93 กับทหารขุนส่า เพื่อชิงพื้นที่สมรภูมิทำให้ขุนส่าสามารถยึดพื้นที่บ้านรักไทยได้บางส่วนและก่อสร้างคุกดินเพื่อกักขังเชลยศึกที่เป็นทหารกองพล 93 มาถูกควบคุมตัวไว้ยังคุกดิน ต่อมาทหารกองพล 93 สามารถยึดพื้นที่ดังกล่าวได้และช่วยเหลือชเลยศึกทั้งหมดออกจากคุกดิน
นางจุไรรัตน์ แพรวพราย ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พบคุกดินสมัยขุนส่า ที่ไว้สำหรับกักขังเชลยศึก ที่บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขนาดความกว้างของปากบ่อประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร ขณะที่ภายใต้คุกดินมีความกว้าง 5 เมตร สามารถกักขังเชลยศึกได้ไม่น้อยกว่า 10 คน
โดยโครงสร้างยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นเรือนไม้ไผ่เพื่อป้องกันฝน ในอนาคตสามารถนำเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ชาวบ้านรักไทยได้เขียนป้ายไว้ที่บริเวณคุกดินทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ทราบถึงคุกดินสมัยขุนส่า ด้วย
“การพบครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์มาก และจะเร่งนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และผู้นำท้องถิ่นในการปรับปรุงและประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป” นางจุไรรัตน์ กล่าว
สำหรับ บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รัฐบาลไทยได้ให้ชนกลุ่มน้อย (กองพล 93) เข้ามาอาศัยซึ่งติดกับประเทศพม่า (รัฐฉาน) เขตอิทธิพลของขุนส่าราชายาเสพติดโลก หรือผู้นำกองกำลัง MTA ขุนส่า เมื่อราวปี 2527
โดยขุนส่าเริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามายังพื้นที่ชายแดนไทยบริเวณบ้านรักไทย ก่อนจะเกิดการสู้รบกันขึ้นระหว่างชนกลุ่มน้อย กองพล 93 กับทหารขุนส่า เพื่อชิงพื้นที่สมรภูมิทำให้ขุนส่าสามารถยึดพื้นที่บ้านรักไทยได้บางส่วนและก่อสร้างคุกดินเพื่อกักขังเชลยศึกที่เป็นทหารกองพล 93 มาถูกควบคุมตัวไว้ยังคุกดิน ต่อมาทหารกองพล 93 สามารถยึดพื้นที่ดังกล่าวได้และช่วยเหลือชเลยศึกทั้งหมดออกจากคุกดิน
