ศูนย์ข่าวภูเก็ต -กระทรวงพลังงานให้สัมปทาน “ปตท.สผ.” สำรวจแหล่งปิโตรเลียมในทะเลอันดามันห่างจากเกาะภูเก็ต 100 กิโลเมตร 3 แปลง ปตท.สผ.เตรียมทุ่มถึง 6 ล้านเหรียญ สำรวจ 3 ปี คาดพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแน่ เพราะก่อนหน้านี้เคยสำรวจพบก๊าซธรรมชาติมาแล้วในแปลงดังกล่าว พร้อมยืนยันไม่กระทบท่องเที่ยวอันดามัน เพราะอยู่ห่างชายฝั่งถึง 100 กิโลเมตร
นายวิชัย อัศวฤทธิพรหม์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเข้าพบ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือการสำรวจปิโตเลียมในทะเลอันดามัน วันนี้ (9 ม.ค.) ว่า กระทรวงพลังงานได้ให้สัมปทานกับทางบริษัท ปตท.สผ.จำกัด เข้าไปสำรวจปิโตเลียมในทะเลอันดามันแปลงที่ A4/48, A5/48 และ A6/48 ซึ่งเป็นพื้นที่ประมาณ 68,820 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งของเกาะภูเก็ตประมาณ 100 กิโลเมตร และเป็นบริเวณที่มีน้ำลึก 20 เมตรขึ้นไป
การให้สำรวจดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะมีระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2550 ที่ไปสิ้นสุดในเดือน ก.พ.2553 ในช่วงแรกนี้จะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรณีวิทยาปิโตรเลียม ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประมวลผลคลื่นไหวสะเทือนเดิม การสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือน 5,500 กม.การประเมินศักยภาพปิโตรเลียมและกำหนดโครงสร้างสำรวจและสรุปผล ซึ่งจะเน้นหลักในเรื่องการวัดคลื่นไหวสะเทือน เพื่อทำการสำรวจชั้นหินใต้ท้องทะเล ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันมากน้อยแค่ไหน
หลังจากนั้น ก็จะเริ่มดำเนินการในระยะที่สองอีก 3 ปี เพื่อสำรวจขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งประมวลความคุ้มค่าของการลงทุนว่าคุ้มค่าหรือไม่ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินการทั้งสองระยะประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการสำรวจจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้หรือประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
นายวิชัย กล่าวอีกกว่า ก่อนหน้านี้ เพื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ทางกระทรวงเคยให้สัมปทานกับทางบริษัท เอสโซ่ และบริษัท ยูโนแคล ทำการสำรวจปิโตรเลียมในแปลงสัมปทานดังกล่าวมาแล้ว และจากการสำรวจในขณะนี้มีทั้งหมด 19 หลุม พบก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน แต่เนื่องจากในขณะนั้นราคาน้ำมันไม่ได้สูงเหมือนในปัจจุบัน การขุดขึ้นมาไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่หากการขุดสำรวจในครั้งนี้พบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในปริมาณที่ใกล้เคียงกับครั้งก่อนนั้น คิดว่าน่าที่จะคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะราคาน้ำมันในปัจจุบันนี้ได้ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
นายวิชัย ยังกล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ต ว่า การสำรวจและขุดเจาะในแปลงดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตและชายฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากจุดสำรวจอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 100 กิโลเมตร
นายวิชัย อัศวฤทธิพรหม์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเข้าพบ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือการสำรวจปิโตเลียมในทะเลอันดามัน วันนี้ (9 ม.ค.) ว่า กระทรวงพลังงานได้ให้สัมปทานกับทางบริษัท ปตท.สผ.จำกัด เข้าไปสำรวจปิโตเลียมในทะเลอันดามันแปลงที่ A4/48, A5/48 และ A6/48 ซึ่งเป็นพื้นที่ประมาณ 68,820 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งของเกาะภูเก็ตประมาณ 100 กิโลเมตร และเป็นบริเวณที่มีน้ำลึก 20 เมตรขึ้นไป
การให้สำรวจดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะมีระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2550 ที่ไปสิ้นสุดในเดือน ก.พ.2553 ในช่วงแรกนี้จะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรณีวิทยาปิโตรเลียม ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประมวลผลคลื่นไหวสะเทือนเดิม การสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือน 5,500 กม.การประเมินศักยภาพปิโตรเลียมและกำหนดโครงสร้างสำรวจและสรุปผล ซึ่งจะเน้นหลักในเรื่องการวัดคลื่นไหวสะเทือน เพื่อทำการสำรวจชั้นหินใต้ท้องทะเล ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันมากน้อยแค่ไหน
หลังจากนั้น ก็จะเริ่มดำเนินการในระยะที่สองอีก 3 ปี เพื่อสำรวจขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งประมวลความคุ้มค่าของการลงทุนว่าคุ้มค่าหรือไม่ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินการทั้งสองระยะประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการสำรวจจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้หรือประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
นายวิชัย กล่าวอีกกว่า ก่อนหน้านี้ เพื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ทางกระทรวงเคยให้สัมปทานกับทางบริษัท เอสโซ่ และบริษัท ยูโนแคล ทำการสำรวจปิโตรเลียมในแปลงสัมปทานดังกล่าวมาแล้ว และจากการสำรวจในขณะนี้มีทั้งหมด 19 หลุม พบก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน แต่เนื่องจากในขณะนั้นราคาน้ำมันไม่ได้สูงเหมือนในปัจจุบัน การขุดขึ้นมาไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่หากการขุดสำรวจในครั้งนี้พบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในปริมาณที่ใกล้เคียงกับครั้งก่อนนั้น คิดว่าน่าที่จะคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะราคาน้ำมันในปัจจุบันนี้ได้ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
นายวิชัย ยังกล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ต ว่า การสำรวจและขุดเจาะในแปลงดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตและชายฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากจุดสำรวจอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 100 กิโลเมตร