ระยอง - บริษัท เพิร์ลออย เข้าชี้แจงกับจังหวัดระยองเป็นครั้งที่ 2 หลังเตรียมขุดเจาะหาแหล่งปิโตรเลียม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น พร้อมนำเสนอวิธีป้องกันการแก้ไขปัญหา
วันนี้ (12 ก.พ.) นายทรงภพ พลจันทร์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นำคณะผู้บริหารบริษัท เพิร์ลออย (ประเทศไทย) จำกัด เข้าชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นกับจังหวัดระยอง เป็นครั้งที่ 2 หลังเตรียมขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมบานเย็น ซึ่งห่างจากชายฝั่งทะเลระยองไปทางทิศใต้ราว 140 กิโลเมตร โดยมีนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง
ตัวแทนบริษัท เพิร์ลออย จำกัด เปิดเผยว่า ที่ตั้งหลุมผลิตปิโตรเลียมของโครงการฯ ห่างจากชายฝั่งทะเลจังหวัดระยองไปทางทิศใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 195 กิโลเมตร ซึ่งปริมาณน้ำมันและก๊าชที่คาดว่าจะผลิตได้ประมาณวันละ 4,000 บาเรลล์/วัน ซึ่งจะเริ่มขุดเจาะประมาณปลายปี 2551 นี้ ซึ่งการเข้าชี้แจงในครั้งนี้เพื่อให้ทางจังหวัดรับทราบถึงแผนดำเนินการโครงการที่จะเกิดขึ้น
รวมทั้งการจัดการและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และการนำเสนอวิธีการป้องกัน การแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ตลอดจนขอรับทราบความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมฯ
ด้านนายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ความต้องการการใช้ก๊าชธรรมชาติ ในช่วงปี 50-54 ประเทศไทย มีความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 ต่อปี ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลส่งเสริม และทุกภาคส่วนควรจะส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้พลังงานเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ทดแทนการใช้น้ำมันที่นับวันจะมีราคาสูงขึ้น และการหาแหล่งพลังงานแหล่งใหม่จะเป็นผลดีกับประเทศไทย ในการประหยัดงบประมาณการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ
วันนี้ (12 ก.พ.) นายทรงภพ พลจันทร์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นำคณะผู้บริหารบริษัท เพิร์ลออย (ประเทศไทย) จำกัด เข้าชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นกับจังหวัดระยอง เป็นครั้งที่ 2 หลังเตรียมขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมบานเย็น ซึ่งห่างจากชายฝั่งทะเลระยองไปทางทิศใต้ราว 140 กิโลเมตร โดยมีนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง
ตัวแทนบริษัท เพิร์ลออย จำกัด เปิดเผยว่า ที่ตั้งหลุมผลิตปิโตรเลียมของโครงการฯ ห่างจากชายฝั่งทะเลจังหวัดระยองไปทางทิศใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 195 กิโลเมตร ซึ่งปริมาณน้ำมันและก๊าชที่คาดว่าจะผลิตได้ประมาณวันละ 4,000 บาเรลล์/วัน ซึ่งจะเริ่มขุดเจาะประมาณปลายปี 2551 นี้ ซึ่งการเข้าชี้แจงในครั้งนี้เพื่อให้ทางจังหวัดรับทราบถึงแผนดำเนินการโครงการที่จะเกิดขึ้น
รวมทั้งการจัดการและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และการนำเสนอวิธีการป้องกัน การแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ตลอดจนขอรับทราบความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมฯ
ด้านนายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ความต้องการการใช้ก๊าชธรรมชาติ ในช่วงปี 50-54 ประเทศไทย มีความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 ต่อปี ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลส่งเสริม และทุกภาคส่วนควรจะส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้พลังงานเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ทดแทนการใช้น้ำมันที่นับวันจะมีราคาสูงขึ้น และการหาแหล่งพลังงานแหล่งใหม่จะเป็นผลดีกับประเทศไทย ในการประหยัดงบประมาณการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ
